นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นกัน คลายกังวลเรื่องการประท้วงที่ฮ่องกงหลังจากที่นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการแล้ว และตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนก็ออกมาดีด้วย
ปัจจัยดังกล่าวนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 4% ซึ่งคาดว่าวันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี น่าจะได้รับความสนใจลงทุนจากนักลงทุน ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ได้เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 401,000 บาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มากกว่าที่ตลาดคาดสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล แต่เรื่องของสต็อกน้ำมันมองว่าเป็นการเพิ่มขึ้นแค่เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี Upside ตลาดฯน่าจะจำกัด โดยยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,666-1,670 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,355.47 จุด พุ่งขึ้น 237.45 จุด (+0.91%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,937.78 จุด เพิ่มขึ้น 31.51 จุด (+1.08%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,976.88 จุด เพิ่มขึ้น 102.72 จุด (+1.30%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 151.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 15.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 10.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 61.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 19.88 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.72 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ย.62) 1,658.64 จุด เพิ่มขึ้น 16.39 จุด (+1.00%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 873.72 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ก.ย.62) ปิดที่ 56.26 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.32 ดอลลาร์ หรือ 4.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ย.) อยู่ที่ 5.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.55 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค นลท.คลายกังวลสถานการณ์ฮ่องกง-Brexit
- "อุตตม"มั่นใจหนี้ครัวเรือนไม่น่าห่วง เหตุส่วนใหญ่เป็นหนี้มีหลักประกัน ขณะบางส่วนกู้เงินเพื่อใช้ หมุนเวียนภาคธุรกิจ แต่สั่งเฝ้าระวังใกล้ชิด พร้อมกำชับแบงก์รัฐลงพื้นที่ช่วยลูกค้าบริหารจัดการหนี้ ด้าน สศค. ระบุ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนแท้จริงอยู่เพียง 65% ด้าน "สมคิด"ห่วงคนไทยกังวลเศรษฐกิจชะลอยืนยันรัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้น
- "นายกฯ" หนุนไทยศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าอาเซียน เสริมมั่นคงไฟฟ้าภูมิภาค เผย 3 ชาติเพิ่มซื้อไฟเป็น 300 เมกะวัตต์ สิงคโปร์รอคิวร่วมวง "สนธิรัตน์" เล็งถกกัมพูชาดันเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หนุนเอกชนไทยลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยความคืบหน้าการควบรวมบมจ.ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม หรือแคท เป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติว่า จากการหารือร่วมกับ 4 ฝ่าย ได้แก่ คณะผู้บริหารของทีโอที คณะผู้บริหารของแคท สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ แคท กำหนดให้ภายใน 45 วัน หรือภายในกลางตุลาคม 2562 ต้องมีข้อสรุปใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แผนบริหารจัดการบุคลากร ว่าหลังจากการควบรวมกิจการจะมีแนวทางอย่างไร 2.สินทรัพย์และหนี้สิน ที่จะมีข้อสรุปร่วมกันได้หรือไม่ ทั้งนี้สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำวินิจฉัยเบื้องต้นว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อสินทรัพย์และหนี้สินของทั้ง 2 องค์กร และ 3.สัญญาและสัมปทานต่างๆ ที่เมื่อเกิดการควบรวมแล้ว จะเกิดผลกระทบหรือไม่ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี และเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันอีกครั้ง
- กกร.รับจีดีพีปีนี้จ่อหลุดจากเป้า 2.9-3.3% จากความกังวลเงินบาทแข็งค่ากว่าชาวบ้านวอนรัฐออกมาตรการแก้ปัญหาด่วนก่อนภาคส่งออกจะถูกกระทบตามและฉุดจีดีพีให้ลดลงอีก ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบางกับปัญหาจากต่างประเทศ สงครามการค้าโลกต้องตามติดอย่างใกล้ชิด
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 88 บาท สถานการณ์ในฮ่องกงที่คลี่คลายด้วยดีน่าจะทำให้การสัญจรเดินทางกลับสู่ปกติเร็วๆนี้ สายการบินต่างๆเตรียมทำการบินปกติ เป็นประโยชน์ต่อ AOT ไปด้วยเพราะในระหว่างการประท้วง กว่า 20 เที่ยวบินต้องประกาศยกเลิกการบิน ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มฟื้นตั้งแต่ ก.ค.-ส.ค. ถึงแม้นักท่องเที่ยวในปีนี้จะโตไม่มาก แต่ AOT ยังเป็นหุ้นที่เติบโตได้ในระยะยาวจากรายได้สัมปทานที่สูงขึ้น การสร้างอาคารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ การขยายสนามบินภูมิภาค เข้าบริหารสนามบินภูมิภาคอีก 4 แห่ง
- TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 80 บาท ระยะสั้นราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยคลายกังวลต่อผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบ ขณะที่ระยะกลางถึงยาวจะได้ปัจจัยบวกจากมาตรการใหม่ของ IMO โดยต้นปีหน้า โดย IMO กำหนดให้กองเรือลดการใช้น้ำมันเตาซึ่งมีกำมะถันและซัลเฟอร์สูงคาดว่าจะหนุนให้กองเรือหันมาใช้น้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันต่ำแทนน้ำมันเตาเพิ่มมากขึ้นเป็นบวกต่อ TOP
- CENTEL (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 36 บาท ราคาหุ้นรับการปิดปรับปรุงโรงแรม Centara Grand at Central World ในช่วงเดือน ส.ค. ซึ่งจะปิดทีละ 3 floor ใช้เวลาถึง 22 เดือน และที่ Centara Grand สมุย ช่วงเดือน มิ.ย. 2562 ถึง มิ.ย. 2563 อย่างไรก็ตามคาดว่า กำไรสุทธิจะกลับมาฟื้นตัวได้ใน Q4/62 เพราะห้องบางส่วนที่ปิดปรับปรุงไปที่เซ็นทรัลเวิลด์จะกลับมาเปิดและขึ้นค่าห้องพักได้ที่ 5-7% และมีการเปิดโรงแรม COSI พัทยา ในช่วงปลายเดือน ก.ย. 2562 ส่วนราคาหุ้นไม่แพง ปัจจุบันเทรดบน PE 22x หรือ -1.0 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE 4 ปี และมี upside risk จากจำนวนนักท่องเที่ยวใน Q3-4/62 ที่ฟื้นตัวมากกว่าคาด