ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าของวันนี้ (20 ก.พ.) จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อบรรเทาเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา โดยเฟดซึ่งจะจัดการประชุมนโยบายของธนาคารครั้งต่อไปในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ได้ปรับลดดอกเบี้ยรวม 1.25% เมื่อเดือนที่ผ่านมา
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า เมื่อเวลา 9.15 น.ตามเวลาในประเทศไทย ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 13.50 จุด หรือ 0.4% แตะ 3,084.56 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 413 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 389 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
เดวิด โคเฮ็น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์กล่าวว่า ตลาดเงินจะยังคงผันผวนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอย่างต่อเนื่อง
"นักลงทุนปลีกตัวออกนอกตลาด ขณะที่ตลาดก็ยังคงไร้ทิศทาง" โคเฮ็นกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งสูงขึ้น แต่โคเฮ็นยังคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในที่ประชุมนโยบายของธนาคารที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ลดลง 8 เซนต์ และหุ้นธนาคารยูโอบี ลดลง 22 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นแคปิตอลแลนด์ เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ และหุ้นซิตี้ ดีเวล็อปเม้นท์ เพิ่มขึ้น 8 เซนต์
หุ้นกลุ่มคมนาคมขนส่งซึ่งมีความอ่อนไหวต่อราคาน้ำมันปรับตัวลดลง โดยหุ้นเนปจูน ออเรียน ไลน์ ลิมิเต็ด ลดลง 4 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ลดลง 10 เซนต์
ในหุ้นกลุ่มบลูชิปนั้น หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอม ลดลง 5 เซนต์ ขณะที่หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ลดลง 10 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--