โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) คาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก จากยอดขายศูนย์เดิมเพิ่มขึ้นจากการมีศูนย์การค้า 33 แห่ง การโอนโครงการคอนโดมิเนียมได้มากกว่าครึ่งปีแรก รวมทั้งจะมีประเด็นบวกจากการโอนสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) มูลค่า 8,000-12,000 ล้านบาทในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยคาดการณ์กำไรในปีนี้อยู่ที่ 12,150 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน
ขณะที่โครงการเซ็นทรัลวิลเลจแม้จะเปิดให้บริการได้ตามกำหนดวันที่ 31 ส.ค.62 แต่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ประเด็นนี้ยังกดดัน upside สะท้อนมาที่ราคาหุ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม หากคำพิพากามีผลกระทบไม่มากราว 2-3% และบริษัทยังมีการขยายศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม และโครงการ Mixed Use หลายแห่ง ทั้งที่ร่วมทุนกับ DTC บนถนนพระราม 4 , ที่ดินถนนพระราม 9
ราคาหุ้น CPN ปิดเที่ยงที่ 68.75 บาท ลดลง 0.50 บาท (-0.72%) สวนทางตลาด SET +0.19%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟินันเซีย ซื้อ 93.00 เมย์แบงก์กิมเอ็ง ซื้อ 87.00 กสิกรไทย ซื้อ 86.00 ทิสโก้ ถือ 74.00
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่าผลประกอบการที่ผ่านมาของ CPN เติบโตได้ดีต่อเนื่อง และมองว่าช่วงครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากจะมีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่จะมีการโอนมากกว่าครึ่งปีแรก รวมทั้งศูนย์การค้าเดิมมีอัตราการเช่าที่เพิ่มขึ้น ส่วนศูนย์การค้าใหม่ในมาเลเซียที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือน มี.ค.62 และ คาดว่าในครึ่งปีหลังอัตราการเช่าศูนย์การค้ายังดีต่อเนื่อง อีกทั้งคาดจะมีประเด็นบวกจากการโอนสินทรัพย์เข้า CPNREIT มูลค่า 8,000-12,000 ล้านบาท ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ส่วนกรณีโครงการเซ็นทรัลวิลเลจจะเริ่มรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง ระยะสั้นความกดดันกรณีที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีศาลปกครองหลังจากศาลให้ความคุ้มครองชั่วคราวโดยสั่ง AOT รื้อถอนสิ่งกีดขวางที่ปิดทางเข้า-ออก หากศาลมีคำพิพากษาแล้วหากกระทบโครงการก็คาดว่าจะมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการ เนื่องจาก CPN ยังมีแผนเปิดโครงการใหม่ๆ ปีละ 2-3 แห่ง ทั้งศุนย์การค้าใหม่ โครงการที่อยู่อาศัย และโคงการ Mixed Use ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการร่วมทุนกับ บมจ.ดุสิตธานี ( DTC) บนถนนพระราม 4 และยังอยู่ระหว่างทำแผนก่อสร้างบนที่ดินถนนพระราม 9 ของ GLAND
อนึ่ง โครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เงินลงทุน 5 พันล้านบาท พื้นที่เช่า 40,000 ตร.มโดยปัจจุบันเปิดเฟสแรก คิดเป็น 1.3% ชองพื้นที่เช่า คาดสร้างรายได้ราว 2% ต่อปี
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรในปีนี้อยู่ที่ 12,150 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน โดยปกติมีอัตราเติบโตของกำไร 10-15% บนฐานกำไรที่ใหญ่ระดับ 1 หมื่นล้านบาทถือว่ามีการเติบโตดี จึงแนะนำให้ลงทุนระยะยาว และช่วงที่ผ่านมาราคาลงมาเป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้น และมีแผนขยายโครงการใหม่ต่อเนื่อง
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แม้ว่าราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากโครงการเซ็นทรัลวิเลเลจ แต่เรายังแนะนำ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมายที่ 93 บาท โดยมองว่าโครงการเซ็นทรัลวิลเลจส่งผลกระทบเพียง 3% ของรายได้รวม ถือว่าไม่มาก และเพิ่งเปิดให้บริการ โดยขณะนี้ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครองกลาง ขณะที่ CPN มีจำนวนศูนย์การค้า 33 แห่งในปัจจุบันและยังมีรายได้จากกลุ่มอาหาร โรงแรม ค่าเช่า ออฟิศ ที่มีความหลากหลายของรายได้
แต่ในระยะสั้น มีคดีที่รอคำตัดสินของศาลปกครอง ทำให้ upside ถูกจำกัด ทำให้เกิดความกังวล จึงแนะนำถือลงทุนระยะยาว
บล.กสิกรไทย ระบุว่า แม้เราจะเชื่อว่าความคลี่คลายของปัญหาที่เกิดกับโครงการเซ็นทรัล วิลเลจจะช่วยหนุนราคาหุ้น CPN ในระยะสั้นขึ้นได้ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยสูงสุดจากศาลฯ แต่ยังถือว่าตัวโครงการมีความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์อยู่ เมื่อดูในส่วนผลการดำเนินงาน เรามองว่า CPN จะผลักดันกำไรไตรมาส 3/62 ให้สูงกว่าไตรมาส 2/62 ได้ ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จากหลายๆ โครงการของบริษัทฯ รวมถึงแผนการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้น และการไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษอย่างที่เคยเห็นในไตรมาส 2/62
นอกจากนี้ การประกาศความคืบหน้าของโครงการขนาดใหญ่บริเวณพหลโยธิน พระราม 9 เพลินจิต และสีลม และโครงการใหม่ในเวียดนาม รวมถึงข้อสรุปการขายทรัพย์สินเข้ากองทุน CPNREIT ในไตรมาส 4/62 ก็จะช่วยเพิ่มแรงหนุนให้กับราคาหุ้น CPN ได้