ผู้บริหาร SECC ยืนยันไม่ได้ทำดีลบิ๊กล็อต/คาดเป็นการเก็งกำไรของนลท.

          นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส(SECC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยืนยันว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น SECC จำนวน 25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6.10% ของทุนชำระแล้วที่มี 409.59 ล้านบาทเมื่อวานนี้(19 ก.พ.)นั้น ผู้บริหารของบริษัทฯไม่มีใครทำรายการ และไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ทำรายการดังกล่าว 
          อย่างไรก็ดี การทำรายการบิ๊กล็อต SECC นี้ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการบริหารงานของบริษัทฯแต่อย่างใด
          อนึ่ง วานนี้(19 ก.พ.)พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น SECC 3 รายการ จำนวน 25 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 112.50 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 4.50 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาเทรดบนกระดานหลักที่ปิดตลาดที่ 5.40 บาท ลดลง 0.25 บาท(-4.42%) มูลค่าซื้อขาย 48.54 ล้านบาท
          เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2551 พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น SECC 4 รายการ จำนวน 47,699,300 หุ้นหรือคิดเป็น 11.65% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดที่มี 409.59 ล้านบาท มูลค่าซื้อขาย 99.21 ล้านบาท เทรดในราคาหุ้นละ 2.08 บาท
          นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ถ้านักลงทุนจะเข้าไปเล่นเก็งกำไรหุ้น SECC ก็สามารถทำได้เป็นเรื่องปกติของตลาดฯ ซึ่งขณะนี้เท่าที่ดูความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SECC ยังไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างไร 
          "หุ้น SECC เป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดฯ ผมมีหน้าที่ในการบริหารงานของบริษัทฯให้มีการเติบโต และปีนี้(51)ก็ตั้งใจว่าจะทำให้มีการเติบโตที่ดี ส่วนเรื่องการเทรดหุ้นก็ไม่ได้เป็นความรับผิดชอบ 100% ดังนั้นถ้านักลงทุนจะเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นก็เป็นเรื่องปกติของตลาดฯ"ประธานกรรมการ SECC กล่าว
          ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 6 อันดับแรกของ SECC ล่าสุดเมื่อ 8 พ.ค.2550 คือ นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ถือหุ้น 114 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 28.50%  นายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ถือหุ้น 22.5 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 5.63%, นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ ถือหุ้น 22.5 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 5.63%, นางนิตยา เลาวกุล ถือหุ้น 14.25 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 3.56%, น.ส.ฐิติพร เมกจิตร ถือหุ้น 14.25 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 3.56% และ นายศิริธัช โรจนพฤกษ์ ถือหุ้น 14.25 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 3.56% 
          ล่าสุดเมื่อเวลา 11.54 น.ราคาหุ้น SECC อยู่ที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท(+0.93%)มูลค่าซื้อขาย 37.45 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 5.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.35 บาท