นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTS) คาดจะนำ บีทีเอส ออกจากแผนฟื้นฟูฯได้ก่อนช่วงสงกรานต์ หรือภายในเดือนเม.ย.51 เนื่องจากขณะนี้ได้แก้คำร้องคัดค้านเจ้าหนี้บางส่วนที่ไม่เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายราย เพื่อเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านเหรียญสหรัฐของ BTS โดยเบื้องต้นได้เลือกพันธมิตรธุรกิจไว้ 4 ราย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหรัฐ(2 ราย)
หลังจากที่ BTS ออกจากแผนฟื้นฟูได้ บริษัทก็จะเร่งนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นด้วย โดยตามแผนงานของบริษัทคาดว่าจะสามารถเข้าตลาดได้ในช่วง ปลายเดือนก.ย.51 โดยจะระดมทุน 15-20% ของทุนจดทะเบียน 1.6 หมื่นล้านบาท
"ใครบ้างไม่อยากออกจากแผนฟื้นฟูฯ เราก็อยากจะให้จบเร็ว ที่ผ่านมาที่ล่าช้าไปเพราะมีเจ้าหนี้ขอแก้ ถ้าเราออกจากแผนฟื้นฟูได้ จำนวนหุ้นที่ถืออยู่ก็ไดลูทลง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถกลับมาถือหุ้นในสัดส่วนที่มากได้ ในใจผม ทั้งกลุ่มก็อยากถือ บีทีเอส 60%"นายคีรี กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มนิวเวิลด์ จากฮ่องกง และ ซัมซุงประกันชีวิต ซึ่งถือเป็นกลุ่มของนายคีรี ถือหุ้นใหญ่ใน BTS มากกว่า 50% ส่วนบมจ.ธนายง(TYONG) ถือหุ้น BTS ไม่ถึง 1% จากที่เคยถืออยู่เกือบ 30%
อนึ่ง ตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ BTS จะลดทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท ลงเหลือ 1.2 พันล้านบาท โดยการลดพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาท หลังจากนั้นจะเพิ่มทุนใหม่ 1.5 หมื่นล้านหุ้น หรือ 1.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.62 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งจะจัดสรรให้ผู้ร่วมทุนใหม่ และแปลงหนี้เป็นทุนกับเจ้าหนี้ จะทำให้จำนวนขาดทุนสะสมที่บริษัทมีอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาทหมดไป จะทำให้หลังจากการเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุนแล้วเสร็จ สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ร่วมทุนใหม่จะเป็น 80% ในขณะที่เจ้าหนี้จะมีสัดส่วนการถือหุ้น 10% และผู้ถือหุ้นเดิมจะมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 10% ของทุนจดทะเบียน
นายคีรี กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 7-8% จากปีก่อนที่รายได้ มีอัตราเติบโตประมาณ 4% เนื่องจากขณะนี้มีความชัดเจนทางการเมืองทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้หันมาพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวกระต้นให้มีการใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมี กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา(EBITDA) จำนวน 6 ล้านบาท/วัน และมีจำนวนผู้โดยสาร 4.5 แสนเที่ยว/วัน
ส่วนการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคา ทั้งๆที่ตามสัญญาสามารถปรับขึ้นที่ราคาสูงสุดระบุไว้ 50 บาท/เที่ยว จากขณะนี้เก็บค่าโดยสารสูงสุดที่ 40 บาท/เที่ยว ซึ่งในช่วงเวลา 7 ปีที่ดำเนินกิจการ ไม่เคยมีการปรับขึ้นถึงราคาเพดานตามสัญญา แต่หากในอนาคต จีดีพีของประเทศปรับขึ้นไปถึง 7% ก็คงจะมีการพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยสาร
ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะเข้าซื้อกิจการ BTS นั้น นายคีรี กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะเข้าใจ และ น่าจะสนับสนุนให้ BTS เข้ามาดำเนินการเองจะดีกว่า เพราะเชื่อว่า ประชาชานให้ความไว้วางใจกับ BTS
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--