ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,675.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 23,929.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,676.62 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,667.31 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในแดนบวกได้เล็กน้อย หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นไปเกือบ 70 จุดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างก็บวกกันเล็กน้อย เนื่องจากได้แรงหนุนจากธนาคารกลางจีน (PBOC) จะลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ลง 0.50% ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสที่จะถึงนี้ รวมถึงคาดหวังจะมีการนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) กลับมาใช้ด้วย ซึ่งก็จะต้องติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร และยังคาดหวังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุม 17-18 ก.ย.นี้ ก็คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน ทำให้มองว่าทั้งสัปดาห์นี้อาจจะมีการเล่นเก็งกำไรกันด้วยประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ซึ่งก็จะทำให้สภาพคล่องตลาดมีมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีปัจจัยถ่วงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แม้ว่าจะมีการนัดเจรจาการค้ากันในต้นเดือนต.ค.นี้ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจนัก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ แต่ก็ยังลุ้นยืนในแดนบวกได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,665-1,663 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,177.87 ล้านบาท ปิดที่ 5.80 บาท ลดลง 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,023.13 ล้านบาท ปิดที่ 428.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 752.62 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 731.53 ล้านบาท ปิดที่ 24.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 697.57 ล้านบาท ปิดที่ 84.25 บาท ลดลง 0.25 บาท