(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดลบ 122.6 จุดเหตุวิตกเงินเฟ้อ

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงในวันนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยฉุดตลาดลง หลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกเรื่องเงินเฟ้อมากขึ้น และยังจุดชนวนให้เกิดการคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ย
          แอนดรูว์ เซคลีย์ หัวหน้าฝ่ายหลักทรัพย์ของอินเตอร์สวิส กล่าวว่า มีสถานการณ์แห่งความไม่แน่นอนมากขึ้นนอกตลาด นักลงทุนมองว่าตอนนี้ตลาดยังไม่ดิ่งลงแต่ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวต่ำลงกว่าเดิม
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดร่วง 122.6 จุด หรือ 2.2% ปิดที่ 5,496.5 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในเดือนนี้ หลังจากที่มีการเทขายอย่างหนักในช่วงท้ายของการซื้อขาย ปริมาณการซื้อขาย 1.5 พันล้านหุ้น มูลค่า 6.8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
          เซคลีย์กล่าวต่อไปว่า "นักลงทุนยังระมัดระวัง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง หากมีคำสั่งซื้อเข้ามา คุณก็จะได้คำสั่งซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้สถานการณ์ไม่น่าวางใจและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง"
          หุ้นกลุ่มแบงค์ถูกเทขาย เนื่องจากมีความกังวลว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกและสถานการณ์นี้จะทำให้มีปัญหาด้านเงินกู้มากขึ้น และยังทำให้ความต้องการในการจำนองลดลง
          หุ้นคอมมอนเวลท์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลีย ตกลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ 4.3% หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ดิ่วลง 90 เซนต์ หรือ 3.0$ หุ้นเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป ร่วง 70 เซนต์ หรือ 3.0% และหุ้นออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง คอร์ป ตกลง 2.7%
          หุ้นค้าปลีกรายใหญ่อ่อนตัวลง ท่ามกลางความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคลดปริมาณการใช้จ่ายลง
          หุ้นเวสฟาร์เมอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายธุรกิจบันนิ่งส์ ตกลง 3.2% ส่วนหุ้นเดวิด โจนส์ ร่วง 3.2% และหุ้นฮาร์วีย์ นอร์แมน ปรับตัวลง 2.6%
          ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองชั้นนำอย่างริโอ ทินโต ตกลง 3.0% และหุ้นบีเอชพี บิลิตัน ร่วง 2.5%
          หุ้นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันพุ่งขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันปิดสูงกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรก
          หุ้นวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม ทะยาน 4.6% แม้ว่าบริษัทจะรายงานตัวเลขกำไรสุทธิทั้งปีที่ตกลง 28% เนื่องจากการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งแกร่งทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น