นายประสิทธิ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บีฟิท(BSEC) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจอื่นเพิ่มนอกเหนือรายได้จากนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารกระแสเงินสด ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น (Cash management) และการบริหารพอร์ตลงทุนของบริษัท ซึ่งในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรจากพอร์ต 50 ล้านบาท จากวงเงินพอร์ต 500 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุน ในกองทุนรวม 300 ล้านบาท และที่เหลือลงทุนตลาดหุ้น
ทั้งนี้ บริษัท จะพยายามลดสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจนายหน้าฯ เหลือ 60-70% จาก 80% และที่เหลือจะมาจากธุรกิจวาณิชธนิกจ 10% และ ที่เหลือกองทุนส่วนบุคคล, ตลาดอนุพันธ์(TFEX)และ พอร์ตลงทุน
"ต่อไปหากเราพึ่งพารายได้จากโบรกเกอร์อย่างเดียวไม่ได้แล้ว เราจะต้องพยายามแข่งขัน และหาธุรกรรมอื่น เพื่อมารองรับก่อนที่จะมีการเปิดเสรี ซึ่งที่ผ่านมา เราก็พยายามในการหาคนเข้ามาเป็นแกนในธุรกิจนั้นๆ ใครเก่งด้านไหนก็ดึงมา เพื่อจะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น โตได้เร็วและสร้างรายได้ได้ง่าย" นายประสิทธิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดที่ 4.5-5.0% ส่วนใหญ่จะมาจากการยายฐานลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นผ่าน อินเตอร์เน็ต โดยปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งจากการซื้อขายหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ต อยู่ 11-12%
ขณะที่งานด้านวานิชธนกิจในปีนี้เชื่อว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน เนื่องจาก ปัจจุบันมีงานในมือ 14-15 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดได้ประมาณ 7 บริษัท มูลค่าระดมทุนผ่านหุ้น IPO รวม 4 พันล้านบาท และจะเป็นปีของธุรกิจวาณิชธนกิจที่สร้างสัดส่วนรายได้สูงถึง 10% ของรายได้รวม โดยในไตรมาส 2/51 บริษัทจะนำบล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ และธุรกิจในกลุ่มรับเหมา ขนาด IPO 300-400 ล้านบาท เข้าตลาดหลักทรัพย์
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--