นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรร่วมถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้ามินบูเพื่อเร่งการก่อสร้างให้โรงไฟฟ้ามินบูเฟส 2-4 ให้แล้วเสร็จก่อนกำหนด โดยที่บริษัทมีความพร้อมเดินหน้าลงทุนเพื่อเร่งพัฒนาโครงการให้จ่ายไฟได้เร็วกว่าแผนเดิม พร้อมกับวางแผนที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อเร่งก่อสร้างโครงการดังกล่าว
สำหรับโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 2, 3 และ 4 บริษัทคาดจะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ 40% ราว 1 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการเร่งพัฒนาโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จ และจ่ายไฟฟ้าก่อนกำหนดภายในปี 64 จากเดิมคาดจะเสร็จในปี 65 โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้วงเงินราว 1 ล้านบาท และหลังจากที่โครงการดังกล่าวได้จ่ายไฟเข้าสู่ระบบในเฟส 1 แล้ว บริษัทจะทำการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 40% เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท ในการเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมอีก 10%
อีกทั้งจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้เพื่อเตรียมพัฒนาธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและโรงแรม คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท โดยที่โครงการดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 10 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหาพันธมิตรที่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการด้วยกันกัน
ส่วนธุรกิจ iLNG บริษัทได้มีการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่เวียดนามและอินโดนีเซียมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการขายให้กับลูกค้านอกแนวท่อส่งภายในประเทศ
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด เพราะในเร็วๆนี้โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มมินบู กำลังการผลิต 226 เมกะวัตต์ ในเมียนมา จะจ่ายไฟเข้าระบบเฟส 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และบริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 30% จากปี 61 เพราะมีรายได้มาจากธุรกิจ iCNG ที่เติบโตตามจำนวนลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้จากการซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV 489 คัน และจะมีการจำหน่ายสินทรัพย์ประเภทที่ดิน จำนวน 10 ไร่ มูลค่า 300 ล้านบาท ในช่วงสิ้นปีนี้