(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: ราคาน้ำมันพุ่งฉุดสเตรทส์ไทม์ร่วง 71.23 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 20, 2008 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ร่วงลงในวันนี้ (20 ก.พ.) อันเป็นผลมาจากการที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งเหนือระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ รวมถึงข่าวการเลื่อนการชำระหนี้ของบริษัท เคเคอาร์ ไฟแนนเชียล โฮลดิงส์ 
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับลดลง 71.23 จุด หรือ 2.3% ปิดที่ 3,026.83 จุด หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 3,019.44 จุด และสูงสุดที่ 3,094.51 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.6 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสงผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในการประชุมนโยบายวันที่ 18 มี.ค.นี้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า บริษัท เคเคอาร์ ไฟแนนเชียล โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่อยู่ในเครือบริษัท โคห์ลเบิร์ก เครวิส โรเบิร์ตส์ แอนด์ โค (KKR) ซึ่งทำธุรกิจกองทุนร่วมทุน ประกาศเลื่อนเวลาการชำระหนี้ตราสารเชิงพาณิชย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เป็นครั้งที่สอง และได้เริ่มต้นการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้รอบใหม่กับกลุ่มเจ้าหนี้ โดยรายงานดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติซับไพร์มอีกครั้ง
โกห์ มู ลีห์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Westcomb Securities กล่าวว่า ตลาดให้ความสำคัญกับทุกข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน
"สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับวิกฤติซับไพร์ม" โลห์ ฮุน ซัน กรรมการผู้จัดการของ Phillip Securities กล่าว โดยระบุเพิ่มเติมว่า ปัญหาสินเชื่อ เศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา และราคาน้ำมันที่พุ่งสูง เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาด
นักลงทุนกำลังตั้งตารอตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค.ซึ่งสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ เพื่อนำมาพิจารณาว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้อีกมากน้อยแค่ไหน
"ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ยได้ไม่มากเท่าที่ควร" โกห์กล่าว "อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยก็ยังมีอยู่มาก"
"แม้ตอนนี้จะมีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ แต่เฟดก็ยังจะลดดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดให้ความสำคัญกับตลาดการเงินและความเชื่อมั่นผู้บริโภคในระยะสั้น มากกว่าแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว"
หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นแกนนำในการปรับลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วง 46 เซนต์, หุ้นยูโอบี ตกลง 28 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 7 เซนต์
ด้านหุ้นบลูชิปก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยหุ้นเคปเพล คอร์ป ร่วง 42 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอม ตกลง 14 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ร่วง 44 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เพรสส์ โฮลดิงส์ ลดลง 7 เซนต์ และ หุ้นสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เอนจิเนียริ่ง ขยับลง 2 เซนต์
ด้านหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับตัวลดลง โดยหุ้นแคปิตัลแลนด์ ร่วง 20 เซนต์, หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 14 เซนต์ และ หุ้นเคปเพล แลนด์ ลดลง 13 เซนต์
ด้านหุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ ร่วง 31 เซนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ