นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ยืนยันฐานะการเงินแข็งแกร่งและผลการดำเนินการยังเติบโตต่อเนื่องจากการทยอยเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ต่อเนื่องในปีนี้ และปีหน้า ขณะที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับที่ดี พร้อมเตรียมร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และดำเนินการตามกฎหมายสำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับฐานะการเงินของบริษัทซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ จนส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเคลื่อนไหวผิดปกติในการซื้อขายเมื่อวานนี้
"เราได้รับแจ้งจากหน่วยงานสื่อสารองค์กร ว่ามีกรณีข้อความในไลน์กรุ๊ปหนึ่งที่กล่าวพาดพิง และให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถานะการเงินของบริษัท ต้องเรียนว่าปัจจุบันบริษัทและกลุ่มบริษัทไม่มีตั๋ว B/E อยู่เลย บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งในระดับ A คือต้องบอกว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง"นายสมิทธ์ กล่าวผ่านรายการทางโซเชียลมีเดียถึงข่าวลือเรื่องการเลื่อนชำระตั๋ว B/E มูลค่า 5 พันล้านบาท
นายสมิทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารกรุงไทย (KTB) นั้น ความจริงคือกลุ่มบริษัทไม่ได้ใช้สินเชื่อกับ KTB แม้จะมีวงเงินที่ธนาคารอนุมัติไว้ให้กลุ่มบริษัทแต่ก็ไม่เคยเบิกใช้เลย รวมถึงกรณีที่อ้างว่าผู้บริหารของ GULF พัวพันกับธุรกรรมการเงินกับ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) นั้น ยิ่งเป็นข้อความเท็จอย่างรุนแรง เพราะกลุ่มบริษัทไม่มีการทำธุรกิจหรือธุรกรรมใด ๆ เกี่ยวข้องกับ EARTH
หลังจากนี้ทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยข่าวดังกล่าว ทั้งเรื่องการให้ข้อมูลเท็จกับตลาด ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ผิดปกติ และทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง
"อยากจะฝากไปกับนักลงทุนว่าไม่ควรหลงเชื่อสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณ และควรติดตามข่าวสารจากช่องทางที่มีความน่าเชื่อถือ มีการกลั่นกรองข่าวก่อนนำเสนอ กลุ่มไลน์ หรือกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเองอาจมีความไม่ประสงค์ดี ใช้ข้อมูลผิด ๆ หลอกลวงนักลงทุนทำให้มีการซื้อขายหุ้นของบริษัทในลักษณะที่ผิดปกติ เป็นความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะไม่นิ่งนอนใจและจะดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด"นายสมิทธ์ กล่าว
นายสมิทธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะร้องเรียนไปยังสำนักงานก.ล.ต.ให้สอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป ส่วนงบการเงินของบริษัทหากมีปัจจัยใดเพิ่มเติมก็จะชี้แจงไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯโดยตรง ซึ่งหากพิจารณาจากงบการเงินของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่าบริษัทมีฐานะการเงินมั่นคง กระแสเงินสดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะทยอย COD ในปี 62 และปี 63 โดยในช่วงไตรมาส 3/62 เทียบกับไตรมาส 3/61 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบ 400 เมกะวัตต์ (MW) และในปี 63 ก็จะทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าในเวียดนามเพิ่มเติมด้วย
ด้านค่าเงินบาทที่ปัจจุบันอยู่ในระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีนั้น ขณะที่บริษัทจะมีภาระหนี้สกุลต่างประเทศเป็นจำนวนมากรวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้ในทางบัญชีมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเพราะเมื่อทอนกลับมาเป็นสกุลเงินบาทจะน้อยลง อย่างไรก็ตามในส่วนนี้เป็นกำไรอัตราแลกเปลี่ยนแบบ Unrealized เพราะในทางปฏิบัติบริษัทได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GULF เมื่อวานนี้ปิดที่ 147 บาท ลดลง 5.5 บาท หรือ 3.6% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยลดลง 0.80% อย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาหุ้น GULF ดีดตัวขึ้น 1.36% มาอยู่ที่ 149 บาท