นางสาววิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจออฟฟิศเมท บมจ.ซีโอแอล (COL) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตเข้าเป้า 6-7% โดยมองแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าบริษัทมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะยังชะลอตัว เนื่องจากบริษัทขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับปรุงสาขาเดิมของออฟฟิศเมท (OfficeMate) ที่เป็นสาขาใหญ่ให้มีความทันสมัย ทั้งสาขาอุดรธานี อุบลราชธานี และชลบุรี ให้มีความทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ดีขึ้น ประกอบกับ บริษัทสามารถใช้งานคลังสินค้าใหม่ ขนาด 22,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ที่สุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ www.offficemate.co.th เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยได้มีการเพิ่มสินค้าในกลุ่มใหม่ๆเข้ามาหลายหลากสามารถรองรับ "อีคอมเมิร์ซ มาร์เก็ต เพลส" ตามแผนที่วางไว้ ทั้งกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหาร (HORECA) กลุ่ม Healthcare Supplies & Equipment และสินค้าของกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม (factory) โดยปัจจุบันมีสินค้าใหม่เพิ่มเข้ามากว่า 6,000 รายการ และคาดว่าจะสามารถเพิ่มสินค้าได้ถึง 10,000 รายการภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่การขยายร้านออฟฟิศเมท พลัส+ (OfficeMate Plus+) เป็นร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ จะเปิดได้ 8 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 2 สาขา ได้แก่ สาขารังสิต และหัวหิน และภายในสัปดาห์นี้จะรเปิดสาขาสกลนคร จากนั้นจะทยอยเปิดสาขา เชียงราย นครราชสีมา ระยอง นครสวรรค์ และปราจีนบุรี โดยปัจจุบันมีผู้สนใจเป็นแฟรนไชส์กว่า 500 ราย พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในปี 63 จะสามารถเปิดให้บริการได้ 30 สาขา และในระยะยาว 3-5 ปีคาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้อย่างน้อย 30-50 สาขาต่อปี งบลงทุน 3.50-4.50 ล้านบาทต่อสาขา
ด้านธุรกิจร้าน B2S (บีทูเอส) บริษัทมีการปรับปรุงพื้นที่หรือเพิ่มสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่ B2S Think Space Stores โดยปัจจุบันดำเนินการเปิดให้บริการไปแล้ว 6 สาขา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ล่าสุด บริษัทเตรียมปิดปรับปรุงสาขาเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าวในสัปดาห์หน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ B2S Think Space Stores ด้วยพื้นที่บริการรวม 1,985 ตารางเมตร ถือว่ามีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของร้าน B2S คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 19 ธ.ค. 62 รับช่วงเทศกาลปลายปี และจะช่วยให้ยอดขายต่อตารางเมตรดีขึ้นอย่างมาก
ด้านธุรกิจบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MEB) เป็นร้านอีบุ๊ก (E-Books) บริษัทมองว่ายังคงเติบโตได้เป็นอย่างดี ซึ่งไตรมาส 2/62 มียอดขายเติบโตถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ตามการเน้นจำหน่ายหนังสือนิยายตามกระแสละครดัง และนิยายที่จะสร้างเป็นละครในอนาคต อีกทั้งยังตั้งเป้าหมายขยายกลุ่มคอนเทนต์ใหม่ ด้วยการร่วมมือกับ MANGA เพื่อเป็นผู้นำการจำหน่ายหนังสือการ์ตูนอีกด้วย