นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจากนอกร้าน 7-Eleven เพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในระยะเวลา 5 ปี (62-66) จากปัจจุบันอยู่ที่ 16% เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากทางเดียว โดยบริษัทจะเน้นการขยายสินค้าแบรนด์ของบริษัทเป็นหลัก และการเจรจากับร้านอาหารเพื่อเสนอขายเครื่องดื่มอื่น ๆ
นอกจากนั้น บริษัทยังคงมีแผนจะเข้าซื้อกิจการ หรือร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะหาบริษัทที่สามารถเสริมประสิทธิภาพให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างกำไรได้ทันที โดยปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.42 เท่า ซึ่งยังมีความพร้อมในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก และยังคงทุบสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เพราะจะมีการนำเครื่องดื่มรสชาติใหม่เข้าไปจำหน่ายในร้าน 7-Eleven ได้แก่ เครื่องดื่มเย็นในโถกด และ All Cafe อีกหลายรายการ ในส่วนของธุรกิจคาแรคเตอร์ บริษัทได้เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ชื่อดังทางออนไลน์ของไทย "หมาจ๋า" เข้ามาเพิ่มเติม และการจำหน่ายสิทธิของกลุ่ม San-X ยังมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และจะช่วยผลักดันรายได้ปีนี้ให้เติบโต 15% ตามเป้าหมาย
"ตามปกติในช่วงครึ่งปีหลัง ธุรกิจจะคึกคักกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของทุกปี ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้น และพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มร่วมกับ 7-Eleven เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงบริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มเติม รวมถึงกลุ่มสินค้าคาแรคเตอร์ ซึ่งปีนี้ถือเป็นธุรกิจที่จะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรอย่างมีนัยสำคัญ"นายชัชชวี กล่าว
นายชัชชวี กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าร่วมกับพันธมิตร แบรนด์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนส่งสินค้าคาแรคเตอร์เข้าทำตลาดในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มยอดขาย คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในกรณีที่ภาครัฐจะเริ่มเก็บภาษีความหวานในขั้นตอนที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 62 บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากได้มีการปรับสูตรเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว