ดัชนีกลุ่มแบงก์บวก 0.65% มาอยู่ที่ 467.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.01 จุด เมื่อเวลา 12.02 น.โดยหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ที่ราคาขยับขึ้น-เทรดคึกคัก ประกอบด้วย หุ้น BBL บวก 2.32% มาอยู่ที่ 176.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 841.40 ล้านบาท
หุ้น KBANK บวก 1.25% มาอยู่ที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,019.97 ล้านบาท
หุ้น SCB บวก 0.83% มาอยู่ที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 631.33 ล้าบาท
หุ้น KTB บวก 0.57% มาอยู่ที่ 17.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 223.19 ล้านบาท
ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,655.19 จุด ลดลง 8.74 จุด (-0.53%) เมื่อเวลา 12.02 น.
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ นำสำรองส่วนที่สูงกว่าจำนวนเงินสำรองที่ต้องกันตาม IFRS9 ณ วันแรก กลับรายการมาบันทึกเป็นกำไร โดยให้ทยอยตัดลดสำรองส่วนเกิน ตามวิธีเส้นตรงเป็นระยะเวลา 5 ปี
ประเด็นดังกล่าวถือเป็นผลดีต่อผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้อาจจะไม่มากนัก เนื่องจากหลังจากตั้งสำรองตามเกณฑ์ IFRS9 แล้ว มูลค่าสำรองส่วนเกินที่ตั้งไว้จะมีมูลค่าลดลง อีกทั้งช่วงครึ่งหลังปีนี้ ธนาคารพาณิชย์จะพยายามจัดชั้นสินเชื่อเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของผลกระทบต่อราคาหุ้นน่าจะทำให้เกิด Sentiment เชิงบวกหนุนราคาหุ้นปรับขึ้นไปได้