นายลิขิต เลาบวรเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงเหลือ 8,000 ล้านบาท จากเดิม 9,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีปริมาณขาย 3.5 ล้านตัน ลดลงจากที่เคยคาดไว้ที่ 4 ล้านตัน ขณะที่ราคาถ่านหินโลกในปีนี้ปรับลดลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
สำหรับปริมาณการขายถ่านหินที่ชะลอลง ส่วนมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการนำเข้าถ่านหินของประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าปริมาณการใช้ถ่านหินน่าจะเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ โดยเฉพาะเวียดนาม และอินเดีย แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับการนำเข้าของจีนก็ตาม
"ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายถ่านหินแล้ว 1.4 ล้านตัน ส่วนครึ่งปีหลังจะต้องมียอดขายอีกราว 2 ล้านกว่าตัน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยบริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้วราว 1 ล้านตัน รวมถึงพยายามขยายตลาดและเข้าหาลูกค้ามากขึ้นในเวียดนามเพิ่มเติมด้วย โดยปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อรักษาการทำกำไรในระดับที่ดีต่อเนื่อง"นายลิขิต กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ธุรกิจบริการในปีนี้ราว 6-7% และจะเติบโตขึ้นเป็น 10% ในปี 63 หลังจากจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด โดย AGE ถือหุ้น 45% และ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) ถือหุ้น 45% ขณะที่ บริษัท แอพไพล์แอ๊ซ เทคโนโลยี ซัพพลายส์ จำกัด ถือหุ้น 10% ภายใต้ทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจจัดหาและให้บริการด้านสาธารณูปโภค คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจบริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บริษัทยังตั้งเป้าขยายท่าเรือเพิ่มอีก 2 แห่ง เพื่อรองรับกับการขยายการขนถ่ายถ่านหินที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงปริมาณการเข้าออกสินค้า โดยท่าเรือที่ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือน ต.ค.นี้ และสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ขณะที่ท่าเรือที่ 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 63