(เพิ่มเติม) ผู้ถือหุ้น N-PARK อนุมัติแผนเพิ่มทุน 4,029 ล้านหุ้นขายผู้ถือหุ้นเดิม

           นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค( N-PARK) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้มีมติอนุมุติแผนเพิ่มทุน 4,028 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 1 บาท ซึ่งจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.05 บาท โดยเชื่อว่าจะกำหนดการขายหุ้นวันที่ 5-7 และ 10-11 มี.ค. 51  
          เม็ดเงินจากการเพิ่มทุนบริษัทจะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการโรงแรมสยามและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าสยามพารากอน และโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงโรงภาษีร้อยชักสาม
          และเชื่อว่านับจากนี้อีก 6 เดือน บริษัทจะสามารถคืนหนี้กับธนาคาร กรุงไทย (KTB) ได้หมด 860 ล้านบาท 
          "เชื่อว่าจะขายหมดได้หมด เนื่องจากราคาขายที่ 0.05 บาทเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากระดานตอนนี้ และการที่เพิ่มทุนไม่มากคงไม่ส่งผลให้ dilute มาก และเชื่อว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามาจะใช้สิทธิเพิ่มทุน...และคาดว่าหุ้นเพิ่มทุนจะเข้าซื้อขายได้ 20 มี.ค." นายเสริมสิน กล่าว
          ส่วนแผนการขายหุ้น บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น(SYNTEC) 190 ล้านหุ้น บมจ.แสนสิริ (SIRI) 62.72 ล้านหุ้น และ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) 820.26 ล้านหุ้น ตามที่คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ ยังไม่สามารถขายได้ เนื่องจากขณะนี้ราคาหุ้นทั้ง 3  ในกระดานปรับตัวลดลง 
          "บริษัทได้กำหนดราคาขายหุ้น SYNTEC ไม่ต่ำกว่า 1.02 บ/หุ้น หุ้น SIRI ไม่ต่ำกว่า 3.75 บ./หุ้น และ หุ้น BMCL 0.79 บ./หุ้น" นายเสริมสิน กล่าว 
          ณ วันที่ 20 ก.พ.51 ราคาหุ้น SYNTEC ปิดที่ 0.81 บาท, หุ้น SIRI ปิดที่  3.52 บาท และ หุ้น BMCL ปิดที่ 1.01 บาท
          "ยอมรับว่า BMCL เป็นหุ้นที่ขายยาก เพราะยังติด Silent period และหากสามารถขายหุ้นที่ถืออยู่ได้ดังกล่าวจะนำไปใช้ในการคืนหนี้ของ  KTB" นายเสริมสิน ระบุ
          นายเสริมสิน กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในขณะนี้ คือ การแก้ไขข้อพิพาทกรณีปัญหาหนี้สินที่มีกับบริษัท ไทยสมุทร ประกันชีวิต จำกัด ที่ฟ้องล้มละลาย ซึ่งขณะนี้กระบวนการอยู่ที่ศาลฏีกา เชื่อว่าภายในกลางปีนี้จะมีทางออก โดยเม็ดเงินกรณีไทยสมุทรฯ ฟ้องร้อง คือ 200 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีก 200 ล้านบาท 
          บริษัทต้องการที่จะให้กรณีไทยสมุทรฯ จบลงโดยเร็ว เพราะจะทำให้หนี้สินที่มีอยู่หมดลงและสามารถดำเนินโครงการต่าง ๆ ต่อไปได้ และพันธมิตรต่างชาติที่รอเข้ามาร่วมทุนก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย 
          "ยอมรับว่าตอนนี้สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเคลียร์ คือ กรณีพิพาทของไทยสมุทรฯ เพราะถือเป็นประเด็นที่ต่างชาติที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรเรา 2-3 รายรีรออยู่" นายเสริมสิน กล่าว
          สำหรับกรณีที่บริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาและถูกมองเป็นหุ้นเก็งกำไร นายเสริมสิน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นักลงทุนควรจะดูจังหวะการลงทุนในการซื้อหรือขายหุ้นให้ดี