บมจ.ยู ซิตี้ (U) ในเครือของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) จับมือพันธมิตรจากฮ่องกง คือ บริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ ลิมิเต็ด ร่วมลงทุน 5 พันล้านบาท เพื่อก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 168 ไร่ ติดกับโครงการธนาซิตี้ ย่านบางนา สามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้ถึง 1,800 คน ตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงเกรด 12 โดยจะเริ่มเปิดสอนตั้งแต่เดือน ส.ค.63 เป็นต้นไป
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร BTS กล่าวว่า การร่วมมือในการลงทุนครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างโรงเรียนนานาชาติที่นำเสนอการเรียนรู้แบบใหม่ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสื่อการเรียนการสอนที่ครบวงจร เพื่อช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพของตนและเติบโตเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์พร้อมรับกับอนาคตที่จะมาถึง ขณะเดียวกัน การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ U ที่จะพัฒนาที่ดินบริเวณใกล้กับโครงการธนาซิตี้ให้กลายเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าอย่างยั่งยืนในอนาคต
อีกทั้งการร่วมลงทุนของบริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ จำกัด ในโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ถือเป็นการลงทุนจากต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงสุดในภาคการศึกษาระบบโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาทั้งในด้านการก่อสร้างอาคารเรียนและสถานที่ ตลอดจนการคิดค้นรูปแบบการเรียนการสอนแบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการศึกษาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
นายคาเมรอน ฟ็อกซ์ หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ เผยว่าโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซได้จับมือกับไอดีโอ (IDEO) บริษัทออกแบบและนวัตกรรมระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมกันคิดค้นรูปแบบการเรียนการสอนและอาคารเรียนที่เหมาะกับ "โรงเรียนแห่งอนาคต"
โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซได้นำมาตรฐานการศึกษาแบบอเมริกันมาบูรณาการเพื่อสร้างเป็น ‘หลักสูตรเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคต (Future-ready Curriculum) การเรียนการสอนจะเป็นแบบสหวิทยาการ เน้นการทำโครงงานและการฝึกทักษะ เพื่อให้นักเรียนได้พาตนเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน นักเรียนจะได้รับมอบหมายให้ทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่คละวัยกัน โดยมีทีมอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญคอยช่วยแนะนำและสนับสนุนอย่างใกล้ชิด เพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัด ตลอดจนได้มีโอกาสแสดงความสามารถ และบ่มเพาะทักษะที่ตอบโจทย์ความท้าทายในอนาคต
การก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซมีปัจจัยส่งเสริมทางเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะโยกย้ายมายังทวีปเอเชียมากขึ้น รวมถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของประเทศไทยในการแปลงระบบเศรษฐกิจให้เป็นดิจิทัล และการที่องค์กรและบริษัทชั้นนำทั่วโลกกำลังมองหาผู้นำและนวัตกรรุ่นใหม่ที่มีทักษะและทัศนคติที่จำเป็นต่อการปรับตัวภายในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมรอบตัวได้อย่างควบคู่กัน
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกของประเทศไทย หรือ อีอีซี จะสามารถดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาได้ปีละประมาณ 100,000 คน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและความต้องการโรงเรียนนานาชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยยังระบุอีกด้วยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดโรงเรียนนานาชาติที่มีการเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตลอดระยะ 8 ปีที่ผ่านมา