ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดลบ 23.5 จุด เหตุกังวลหนี้เสีย

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงในวันนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาคการธนาคารได้บดบังรายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกที่สดใส รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์และแร่โลหะที่เดินหน้าขึ้นแข็งแกร่ง
          นักลงทุนพยายามปลีกตัวจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ธนาคารเอเอ็นซี, เซนต์จอร์จ แบงก์ และคอมมอนเวลท์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ออกมายอมรับว่าธนาคารอาจเสี่ยงหนี้สูญ เนื่องจากบ.เชนโทร พร็อพเพอร์ตี้ส์ กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ไม่สามารถหาเงินมาชำระเงินกู้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ได้ 
          "นักลงทุนยังคงหวาดหวั่นกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว" จัสติน กัลลาเกอร์ หัวหน้าฝ่ายขายจากเอบีเอ็น แอมโรกล่าว
          "เรามีหลักฐานสนับสนุนว่าธนาคารต่างๆกำลังเผชิญกับปัญหาของตัวเองและสภาพแวดล้อมด้านสินเชื่อที่เป็นลบได้ขยายวงกว้างออกไปนอกเหนือจากปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐ"
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลดลง 23.5 จุด หรือ 0.4% ที่ระดับ 5,559.9 จุด หลังจากเคลื่อนลงแตะ 5,490.4 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.7 พันล้านหุ้น มูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
          ธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ เป็นแกนนำหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง โดยหุ้นของธนาคารร่วงลง 96 เซนต์ ส่วนหุ้นเวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป ร่วง 58 เซนต์ หุ้นซีบีเอขยับลง 86 เซนต์ และหุ้นเอเอ็นซีลบ 36 เซนต์
          ทั้งนี้ แม้จะมีแรงซื้อที่สดใสแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะดันดัชนีขึ้นสู่แดนบวก
          หุ้นเวสฟาร์เมอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตโคลส์ และร้านบันนิ่งส์ที่จำหน่ายอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ทะยานขึ้น 2.41 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทรายงานผลกำไรสุทธิช่วงครึ่งปีหลังสิ้นสุดเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 53.3% แตะ 601 ล้านดอลลาร์  
          เจมี่ สปิเทรี่ จากชอว์ สต็อกโบรคกิ้ง กล่าวว่า นักลงทุนที่เคลื่อนย้ายเงินจากหุ้นกลุ่มธนาคารไปยังหุ้นกลุ่มทรัพยากร ได้ช่วยหนุนให้หุ้นของบีเอชพี บิลลิตัน และ ริโอ ทินโต ขยับสูงขึ้น
          โดยหุ้นบีเอชพีกระโดดขึ้น 73 เซนต์ และหุ้นริโอเดินหน้า 1.92 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนหันไปหาสินค้าโภคภัณฑ์และแร่โลหะที่มีราคาสูงขึ้น