ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,635.25 จุด ลดลง 5.41 จุด (-0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 26,008.56 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,644.29 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,630.94 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เนื่องจากตัวเลขส่งออก และตัวเลขนำเข้า ของไทยออกมาไม่ดี สร้างความกังวลในระยะสั้น โดยตัวเลขส่งออก ส.ค.กลับมาหดตัว 4.0% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้จะหดตัว 2.0% และตัวเลขนำเข้าหดตัว 14.62% ถือว่าชะลอตัวหนัก และสัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นเริ่มเป็นลบมากขึ้นหลังจากที่ดัชนีฯหลุด 1,640 จุด ทำให้นักลงทุนระยะสั้นชะลอการลงทุน
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้ติดลบเช่นเดีวกับตลาดในกลุ่ม TIP ที่เช้านี้ติดลบกันหมด จากที่ Fund Flow ในกลุ่ม TIP เริ่มไม่ดี แม้ว่าความขัดแย้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังต้องติดตามดูความคืบหน้า แต่ขณะนี้คนเชื่อว่าจะคลี่คลายได้ จึงได้เห็น Fund Flow ไหลกลับไปที่ตลาดไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องกับตลาดสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดอื่นยังมีความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า การที่ดัชนีฯลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,640 จุด สร้างแรงกดดันให้ตลาดฯ และยังต้องระวังการลงทุน โดยวันนี้จะต้องลุ้นให้ตลาดฯปิดเหนือ 1,640 จุด มิฉะนั้นสัปดาห์หน้าตลาดฯมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่อ
พร้อมให้แนวรับ 1,635 ถัดไป 1,600-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,166.23 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,102.68 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 953.46 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 841.84 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTG มูลค่าการซื้อขาย 671.45 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท ลดลง 1.30 บาท