นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยถึงการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ ว่าในวันนี้คณะกรรมการบริหารได้ประชุมหารือเพิ่มเติมก่อนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) จากที่นำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทครั้งที่แล้ว เนื่องจากต้องการดำเนินการให้รอบคอบ ข้อมูลที่ประเมินต้องทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ รวมทั้งข้อมูลด้านการตลาด เพราะบริษัทได้รับคำถามจากนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคมในการจัดหาเครื่องบิน โดยขณะนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ
สำหรับการจัดซื้อครั้งนี้ส่วนใหญ่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าในรัฐบาลชุดที่แล้วยังไม่ได้นำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อมีรัฐบาลใหม่ กระทรวงคมนาคมได้นำกลับมาทบทวนโครงการ หรือเกือบนับหนึ่งใหม่ ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายที่จะสรุปการจัดหาเครื่องบินได้เสร็จภายในปีนี้
หากในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการพิจารณาแล้วจะนำส่งเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคม โดยไม่ต้องผ่านสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เพราะได้พิจารณาไปแล้ว ก็จะนำเสนอต่อครม.อนุมัติ หลังจากนั้นจะเริ่มจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งอย่างเร็วจะรับมอบเครื่องบินภายใน 2 ปี แต่หากมีการปรับเปลี่ยนแบบเครื่องบินก็จำเป็นต้องนำเข้าพิจารณาของสภาพัฒน์ใหม่ ส่วนแหล่งเงินทุน ที่พิจารณามีทั้งการกู้เงิน เพิ่มทุน และมีส่วนทุนอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องดูสถานการณ์ ว่าจะใช้แหล่งเงินจากไหนและอย่างไร
"6 คำถามของรัฐมนตรี เป็นคำถามที่ดี แต่เราเห็นว่าฝ่ายจัดการยังตอบได้ไม่ชัดเจน บอร์ดต้องเข้มงวด ซึ่งเขาทำมายังไม่เป็นที่พอใจ เราส่งกลับไปให้ฝ่ายจัดการ"นายเอกนิติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากครม.อนุมัติจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบินที่แบ่งเป็นล็อตแรกใช้ทดแทนเครื่องเก่า และอีกล็อตเพื่อใช้ขยายตลาด ซึ่งการจัดซื้อเป็นรายปี
นายเอกนิติ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาการเช่าเครื่องบิน จำนวน 3 ลำที่การพิจารณาของคณะกรรมการครั้งที่แล้วต้องการข้อมูลเพิ่มจากฝ่ายจัดการ อาทิ อายุการเช่า 5 ปี จะนำไปบินเส้นทางไหน รวมทั้งรายละเอียดไฟแนนซ์ ที่เห็นว่าข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ซึ่งคณะกรรมการยืนยันต้องดำเนินการให้รอบคอบ
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทในวันพรุ่งนี้ จะพิจารณาการประเมินผลงานนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ของการบินไทย เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่เริ่มงานวันที่ 1 ส.ค. 61 ทั้งนี้ จะพิจารณาตาม KPI ที่ได้กำหนดไว้