SPALI เตรียมเปิดอีก 7 โครงการใหม่ใน Q4/62 มูลค่า 6-7 พันลบ. เน้นแนวราบหลังตลาดคอนโดฯยังชะลอตัวบางทำเล

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 24, 2019 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4/62 อีก 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6-7 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 6 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยโครงการแนวราบยังมีทิศทางการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการซี้อของลูกค้าที่หันมาสู่ตลาดแนวราบมากขึ้น และมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่มีผลกระทบกับการซื้อ-ขายโครงการแนวราบมากนัก เพราะลูกค้าที่ซื้อโครงการแนวราบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง อีกทั้งการแข่งขันในตลาดแนวราบไม่รุนแรง เพราะส่วนใหญ่เจ้าตลาดเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่

ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันยังชะลอตัวอยู่ หลังจากที่มาตรการ LTV เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเม.ย. 62 ทำให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ประกอบกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักลงทุนและลูกค้าชาวต่างชาติได้หายไปจากตลาดค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ซัพพลายในตลาดยังมีเหลือเป็นจำนวนมากในบางทำเล ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบด้านการขาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายชะลอการเปิดคอนโดมิเนียม รวมถึงบริษัทที่ไม่ได้เน้นการเปิดคอนโดมิเนียมมากนัก และเลือกทำเลมากขึ้น โดยจะเน้นในทำเลที่มีศักยภาพ และมีการแข่งขันไม่มาก ทำให้ยังสามารถสร้างยอดขายในช่วงเปิดโครงการได้อย่างดี

ล่าสุดบริษัทได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 1.24 พันล้านบาท ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีท่าพระเพียง 570 เมตร โดยมีจำนวนยูนิตพักอาศัย 421 ยูนิต ขนาด 28-99.5 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท พร้อมเปิดขายพรีเซลในวันที่ 19-20 ต.ค. 62 ซึ่งบริษัทคาดว่าในช่วงวันพรีเซลจะมีลูกค้าเข้ามาจองมากกว่า 50% และโครงการดังกล่าวมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 65

สำหรับยอดขายและยอดโอนในปีนี้ยังคงมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายที่ 3.5 หมื่นล้านบาท และ 2.8 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีการโอนโครงการอีกราว 1.5 หมื่นล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมดที่มี 4.3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดการโอนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ราว 1 หมื่นล้านบาท และอีก 5 พันล้านบาท จะเป็นการโอนของโครงการแนวราบ พร้อมกับทยอยระบายสต็อกที่เป็นสินค้าพร้อมโอนที่เหลืออยู่มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ มูลค่า 5 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ