(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัวลงตามภูมิภาค กังวลสงครามการค้า-การเมืองสหรัฐฯ, จับตาประชุมกนง.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 25, 2019 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อยราว 0.5-0.6% จากความกังวลหลักที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์จีนในเวทีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทำให้วิตกการเจรจาการค้าอาจมีการเลื่อนการเจรจาได้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากการเมืองในสหรัฐฯ ในเรื่องการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ถูกมองว่าการกระทำของ"ทรัมป์"มีการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

ส่วนบ้านเราวันนี้ให้ติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งส่วนใหญ่ก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,636-1,642 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,807.77 จุด ลดลง 142.22 จุด (-0.53%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,966.60 จุด ลดลง 25.18 จุด (-0.84%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,993.63 จุด ลดลง 118.83 จุด (-1.46%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 137.02 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 118.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 32.34 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.57 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.19 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ย.62) 1,630.50 จุด เพิ่มขึ้น 7.71 จุด (+0.48%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 957.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ก.ย.62) ปิดที่ 57.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ย.) อยู่ที่ 7.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.56 ตลาดรอดูสัญญาณดอกเบี้ยจากกนง.-วิตกการเมืองสหรัฐ มองกรอบวันนี้ 30.45-30.65
  • ครม.เคาะร่างสัญญามาบตาพุดเฟส 3 สั่ง กนอ.ลุยลงนามสัญญากับกัลฟ์-ปตท. เคาะวงเงินร่วมลงทุนปีละ 710 ล้านบาท จ่อตั้งบอร์ดบริหารสัญญา ตลอด 30 ปี "หุ้นกัลฟ์" ขึ้นรับข่าวดี 3.01% "ศักดิ์สยาม" สั่งเข้มสัญญาไฮสปีด จี้รื้อเอกสารแนบท้ายสัญญา 27 ก.ย.นี้ ระบุ เพิ่มเติมเนื้อหาเกินอำนาจ หวั่นเอื้อเอกชน
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือนส.ค. หดตัว 4.4% ส่งสัญญาณภาคผลิตซบ ผลพวงเศรษฐกิจ-การค้าโลกชะลอ บาทแข็ง กระทบส่งออก อัตรากำลังผลิตหดตัวตาม สศอ.ลุ้นปลายปีกระเตื้อง อานิสงส์เทศกาลช็อปปิ้งปีใหม่ มาตรการกระตุ้นของรัฐ ไม่เป็นไปตามคาด หั่นเอ็มพีไอ-จีดีพีต่ำกว่าค่ากลาง 0.5%
  • นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย มองแนวโน้มตลาดโฆษณาปีนี้คาดว่าจะโตไม่แตกต่างจากปี 2561 ที่ 2-3% มีเม็ดเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท ต่ำกว่าอัตราเติบโตเมื่อ 5-10 ปีก่อนที่เติบโตมากกว่า 8% เนื่องจากการแข่งขันในสมัยนั้นยังไม่สูงเหมือนปัจจุบัน ส่วนการที่จะทำให้ตลาดโฆษณากลับมาเติบโตสูงอีกครั้ง ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวและเข้าใจเทรนด์ใหม่ๆ ให้ทันอยู่ตลอดเวลา
  • ครม.เคาะลดภาษีเครื่องดื่มผสมคอลลาเจนเหลือ 10% หวังส่งเสริมประชาชนบริโภคเครื่องดื่มที่ดีกับร่างกายมากขึ้น ส่วนน้ำผัก-ผลไม้ ภาษีเหลือ 3% จากเดิม 10% พร้อมไฟเขียว ลดภาษียาเส้น เยียวยาชาวไร่และโรงงานขนาดเล็ก
  • ขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.กำลังตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ฉบับที่ 6)ปี 2562 โดยคาดว่าไตรมาส 1 ปี 63 จะมีความชัดเจนถึงประเด็นที่จะแก้ไข โดยจะเน้นเรื่องการคุ้มครองผู้ลงทุน โดยเฉพาะแนวทางการจัดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในตลาดทุน(Investor Protection Fund)เพื่อเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโดยนำกฎหมายจากต่างประเทศมาเป็นต้นแบบ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 16.2 บาท "ชิม ช้อป ใช้" ฮอตฮิตต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยมียอดลงทะเบียนรับสิทธ์เต็มเพดานที่ 1 ล้านคนต่อวันเป็นวันที่ 3 ส่งผลบวกโดยตรงต่อ SPA เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังได้ Sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาฟื้นตัวเนื่องจาก SPA มีสัดส่วนลูกค้าชาวจีนคิดเป็น 50% ของรายได้รวม
  • SPALI (เอเซีย พลัส) เป้า 23.20 บาท แม้เป็นหุ้นที่ฝ่ายเคยแนะนำให้ชะลอการลงทุนในช่วงสั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการถูกขายหุ้นจากกองทุน เพื่อเตรียมเงินไปลงทุนในหุ้น IPO ขนาดใหญ่ AWC แทน แต่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาแรงกว่า 9.14%mtd น่าจะสะท้อนประเด็นดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว จึงถือเป็นโอกาสเข้าสะสม และในมุมของพื้นฐานยังมีความแข็งแกร่งของ Backlog ระดับสูงสุดในกลุ่มฯ (กรณีไม่รวม JV) ด้วยมูลค่ามากถึง 4.3 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ 4-5 ปีข้างหน้า ถือเป็นการประกันรายได้เติบโตมั่นคงในระยะกลาง ขณะที่แนวโน้ม H2/62 คาดยอดโอนฯ และกำไรสูงกว่า H1/62 แรงหนุนจากการเปิดขายโครงการแนวราบใหม่เชิงรุก และการส่งมอบคอนโดฯ ต่อเนื่องจาก H1/62 รวมถึงคอนโดฯใหม่ขนาดใหญ่ Supalai Veranda Rama 9 มูลค่า 4.3 พันล้านบาท ขายแล้ว 99% ในช่วง Q3/62 นี้ ด้าน Valuation คาดหวังอัตราเงินปันผลสูงถึง 6% ต่อปี และมี PER ซื้อขายเพียง 6.2 เท่า
  • SCB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 150 บาท ราคาหุ้นถูกมาก ซื้อขายที่ PE ปีนี้เพียง 8.4 เท่า PBV เพียง 0.97 เท่า ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก ขณะที่ ROE 12% สูงกว่ากลุ่ม จึงคาด Dividend yield ปกติปีนี้ 5% (H1/62 จ่ายแล้ว 1.50 บาท/หุ้น คาด H2/62 จ่ายอีก 4.50 บาท/หุ้น) ไม่รวมปันผลพิเศษที่อาจได้รับจากการขาย SCBLife ทั้งนี้ถ้าขาย SCBLife ก่อนสิ้น Q3/62 (รออนุมัติจาก ธปท. และ คปภ.) SCB จะบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนและไม่ต้องรับรู้ผลสำรองเบี้ยประกันซึ่งเกิดจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่กำไรปีหน้าจะฟื้นแรงหลังการลงทุนไอทีแล้วเสร็จ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ