ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:แรงเทขายหุ้นเหมืองแร่ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 43.70 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลงอย่างหนักจนบดบังการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หลังจากที่ธนาคารลอยด์ ทีเอสบีรายงานผลประกอบการประจำปี 2550 ที่แข็งแกร่งเกินคาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 43.70 จุด แตะระดับ 5,888.5 จุด หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ5,863.8  -  5,970.9 จุด 
          โดยหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากปรับราคาโลหะมีค่าหลังจากที่ราคาสินค้าดังกล่าวพุ่งสูงขึ้น
          นอกจากหุ้นกลุ่มเหมืองที่ปรับตัวร่วงลงแล้ว หุ้นกลุ่มค้าปลีกก็ดิ่งลงอยู่ในแดนลบเช่นกัน หลังจากที่จอห์น เลวิส พาร์ทเนอร์ชิพ เปิดเผยบรรยากาศการซื้อขายในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นช่วงที่เผชิญกับความยากลำบากมากที่สุดช่วงหนึ่ง โดยยอดขายในร้านค้ารอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ก.พ. ร่วงลง 3.4% 
          หุ้นกลุ่มค้าปลีกยังได้รับปัจจัยถ่วงจากการแสดงความคิดเห็นของโบรกเกอร์ที่ออกมาในเชิงลบ โดย Landsbanki ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของมาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ ลงมาอยู่ที่ระดับ 'reduce' จากเดิมที่ 'hold' เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์ความเลวร้ายในช่วงขาลงที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังคงมีอยู่และยังคงเห็นถึงคามเสี่ยงต่อตัวเลขผลประกอบการที่ซบเซา
          ทั้งนี้ หุ้นมาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ปิดร่วงลง 19 เพนซ์ ขณะที่หุ้นเน็กซ์ปิดดิ่งลง 66 เพนซ์
          ขณะที่หุ้นบริติช แอร์เวย์ร่วงลง 10 เพนซ์ จากข้อพิพาทเรื่องนักบินที่เป็นปัจจัยให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา
          อย่างไรก็ตาม หุ้นลอยด์ ทีเอสบี ปิดพุ่งขึ้นที่ 20.75 เพนซ์ หลังจากที่ธนาคารรายงานผลประกอบการตลอดทั้งปีซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้านธุรกิจธนาคารรายย่อยในอังกฤษ 
          โดยลอยด์ ทีเอสบี ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 5 ของอังกฤษ เปิดเผยผลกำไรก่อนหักภาษีในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. อยู่ที่ 3.919 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.713 พันล้านปอนด์ในปีก่อนหน้านี้ 
          จากข่าวดีในธุรกิจธนาคารใด้ช่วยหนุนให้หุ้นแบงค์รายอื่นๆปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอาร์บีเอสพุ่งขึ้น 4 เพนซ์ ซึ่งธนาคารแห่งนี้มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการประจำปี 2550 ในวันพฤหัสบดีหน้า