AWC กวาด 4.8 หมื่นลบ.หลังขายหุ้น IPO เกลี้ยง 8 พันล้านหุ้น,FA มองสถาบันปรับพอร์ตรอซื้อหุ้นเป็นการเลือกลงทุนตามเกณฑ์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 27, 2019 18:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ระบุว่าการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 8,000 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุนกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท สามารถจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยได้จัดสรรให้รายย่อยจองซื้อแล้วในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย.62 ส่วนการจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบันในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค.62 ได้ตกลงขายไปครบแล้วทั้งจำนวน ภายใต้สัดส่วนระหว่างนักลงทุนในต่างประเทศ 53% และนักลงทุนในประเทศ 47%

สำหรับการนำเสนอขายหุ้น IPO ของ AWC ในครั้งนี้นับเป็นกำรเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และด้วยเสนอขายดังกล่าวเป็นผลให้ AWC มีโอกาสเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 ด้วยเกณฑ์ แบบ Fast Track

AWC แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายและสัญญาซื้อขายหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บล.กสิกรไทย บล.ไทยพาณิชย์ บล.บัวหลวง และ บล.ภัทร และมีผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchasers) ได้แก่ Merrill Lynch (Singapore) Pte. Ltd. Morgan Stanley & Co. International plc. และ UBS AG, Singapore Branch ขณะที่ AWC จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในต้นเดือน ต.ค.62

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน AWC กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ AWC ในครั้งนี้ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันได้ใช้สิทธิการจองซื้อหุ้น IPO ของ AWC ตามที่ได้จัดสรรไว้ทั้งหมด 8 พันล้านหุ้นอย่างครบถ้วน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ AWC จากนักลงทุนที่เห็นถึงศักยภาพของ AWC ในทั้งการที่จะมีมูลค่าสินทรัพย์และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC เปิดเผยว่า บริษัทสามารถระดมทุนจากการขาย IPO ครั้งนี้ถึง 4.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นกระบวนการเสนอขายหุ้น IPO ที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยได้จัดสรรหุ้นทั้งหมด 8 พันล้านหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยในประเทศ

เงินที่ได้จากการระดมในครั้งนี้จะแบ่งเป็นการใช้เพื่อการลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ของกลุ่ม TCC Group ในส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ประเภทโรงแรม คอมเมอร์เชียล และที่ดินเปล่า ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท และ 2 หมื่นล้านบาทจะนำไปใช้ปรับปรุงสินทรัพย์ในส่วนที่บริษัทได้เข้าซื้อมาแล้ว เพื่อสร้างมูลค่าและรายได้ให้เพิ่มขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนห้องพักโรงแรมทั้งหมด 4,400 ห้อง ซึ่งจะเพิ่มเป็น 8,500 ห้องในช่วง 5 ปีข้างหน้า และในส่วนของธุรกิจคอมเมอร์เชียลปัจจุบันมีพื้นที่เช่าอยู่ที่ 165,000 ตารางเมตร ก็จะเพิ่มเป็น 415,000 ตารางเมตรในช่วง 5 ปีข้างหน้า

การที่บริษัทได้มีการลงทุนพัฒนาและขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้รายได้และ EBITDA ของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่แนวโน้ม P/E ของบริษัทในอนาคตจะมีแนวโน้มลดลงจากปัจจุบันที่ 207 เท่า เนื่องจากการที่บริษัทมีสินทรัพย์เพิ่มมากขึ้น จะสามารถสร้างผลการดำเนินงานให้กับบริษัทเข้ามามากขึ้น และทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นตาม ส่งผลต่อแนวโน้มของ P/E ที่ลดลง

ขณะเดียวกันความสามารถในการลงทุนของบริษัทยังเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดที่เข้ามารองรับมากขึ้น และยังมีความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทลดลง หลังจากที่การเสนอขาย IPO จะนำเงินส่วนหนึ่งไปใช้ในการชำระคืนหนี้

นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ บล.ไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน AWC กล่าวถึงกระแสข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับการที่นักลงทุนสถาบันรายใหญ่หลายแห่งปรับพอร์ตขายหุ้นเพื่อนำเงินมาลงทุนในหุ้น IPO ของ AWC ว่า ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วนักลงทุนสถาบันก็จะมีการปรับพอร์ตเลือกหุ้นที่เหมาะสมกับช่วงนั้น และเลือกเข้าลงทุนในหุ้นที่เข้าเกณฑ์ในการลงทุนของสถาบันนั้นๆ ซึ่งมองว่า AWC เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันหลายรายให้ความสนใจอย่างมาก เพราะจะมีการเติบโตทั้งในด้านของมูลค่าสินทรัพย์และผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในอนาคตหลังการระดมทุนในครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ