ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าบวกเล็กน้อยรับอิทธิพลตลาดตปท. บาทมีโอกาสแข็งค่าต่อ

         นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อย ยังคงจะได้รับอิทธิพลจากตลาดต่างประเทศเป็นสำคัญ มองว่าถ้าดัชนีจะปรับบวกขึ้นไปอาจจะขึ้นได้ไม่เกิน 830-840 จุด หุ้นน้ำมันจะได้รับความสนใจแต่คิดว่าช่วงนี้คงให้ความสำคัญกับหุ้นโรงกลั่นเป็นประเด็นหลักเพราะคิดว่าค่าการกลั่นจะยืนได้ไม่ลงลึก แนะทยอยเก็บหุ้นโรงกลั่น
          ส่วนปัจจัยในประเทศถ้ามีการประชุมกันแล้วมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ก็น่าจะทำให้เงินบาทมีโอกาสที่จะแข็งค่าต่อ 
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,381.02 จุด เพิ่มขึ้น 96.72 จุด(+0.79%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,353.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.58 จุด(+0.79%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,303.35 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด (+0.16%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 218.45 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.ที่ 98.81 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.58 ดอลลาร์ 
          - เช้านี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะชี้แจงแนวนโยบายในการบริหารประเทศของรัฐบาลให้แก่หัวหน้าส่วนราชการระดับสูงและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภามาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการในช่วง 4 ปี(2551-54) ประกาศนั่งเป็นประธานคุม 5 โครงการขนาดใหญ่เอง ทั้ง "ระบบขนส่งมวลชน-รถไฟทั่วประเทศ-ระบบน้ำ-เศรษฐกิจ-การแพทย์" รับปากดูแลปัญหาผัก-หมู ราคาแพง ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
          - รมว.คลัง เตรียมประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ ใช้ 10 มาตรการภาษี ทั้งยืดแวต 7% ยกเว้นเงินได้บุคคลธรรมดา ลดหย่อนหักค่าใช้จ่ายและคงภาษี บจ. 25% พร้อมบี้งบประมาณส่งถึงรากหญ้า สั่ง "กรมบัญชีกลาง-สศค." รวบรวมข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณหน่วยงานต่างๆ ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยเฉพาะกองทุนนอกงบประมาณและ อปท.ที่เบิกจ่ายงบประมาณสูงต้องติดตามการใช้จ่ายจริง พร้อมเดินสายบูมประชานิยมจ้องรื้อใหญ่ สบร. แยก TCDC กลับมาเหมือนเดิม          
          - นักวิชาการชี้เว้นภาษีไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าภาครัฐเร่งการลงทุน แนะจัดลำดับความสำคัญโครงการใช้เงิน ยืดผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากกว่าผลทางการเมืองชี้ใช้นโยบายการคลังกระตุ้นการบริโภคได้ในระยะสั้น ย้ำต้องไม่กระทบวินัยการคลัง จี้ขยายฐานภาษีเพิ่มชดเชยรายได้ภาษีที่หายไป คาดวันที่ 27 ก.พ.นี้แบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ยนโยบายแค่ 0.25% เท่านั้น เหตุเกรงกระทบเงินเฟ้อ และสภาพคล่องการเงินไม่เอื้อ
          - สำนักงบเปิดช่องรัฐบาลขาดดุลเพิ่มได้ถึง 2 แสนล้านบาท ใช้หนุนประชานิยมกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ใช้เวลาดำเนินการทางกฎหมายแค่ 2 เดือน คาดอัดฉีดเงินเข้าระบบรากหญ้าได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ระบุ งบล้างท่อ มีรายได้อ่วมทั้งสรรพากรและสรรพสามิต
          - บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในวันนี้ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2550 น่าจะอยู่ที่ 4.6% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่ สศช.ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจปี 2550 จะมีอัตราการขยายตัวไม่เกิน 4.5%
          - กระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกในเดือน ม.ค.51 ขยายตัว 33.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 13,959 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 49.1% คิดเป็นมูลค่า 14,613 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือน ม.ค.51 ไทยขาดดุลการค้า 653 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก