นายทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในเครือธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในปี 62 จะเติบโตเกินเป้ามาอยู่ที่ 40% หรือคิดเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้เติบโต 25% หรืออยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ สินเชื่อใหม่เติบโตแล้ว 25-30% หรืออยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท ส่วนสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท จากสิ้นปีก่อน 4.6 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้มกำไรของบริษัทในปีนี้จะโตมากกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยในปี 61 มีกำไรอยู่ที่ 400 ล้านบาท
"สินเชื่อที่เราปล่อยไปถือว่าโตมากกว่าตลาดเกือบ 20% จากที่ปัจจุบันตลาดติดลบ 4% และคาดว่าสิ้นปีนี้ตลาดก็น่าจะติดลบใกล้เคียงกัน ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี มีผลต่อกำลังซื้อ โดยที่กลยุทธ์ของเราจะกระจายไปพื้นที่ใหม่ ๆ โดยตอนนี้เรามีสาขา 16 สาขา และแต่ละสาขาก็กินพื้นที่ได้ 3 จังหวัด ทำให้เราบริการได้ถึง 50 จังหวัด ส่วนแผนในปีหน้าก็มองว่าเราต้องโตเท่าตัว หรือปล่อยสินเชื่อใหม่ 6 พันล้านบาท และมีพอร์ตคงค้างที่ 8 พันล้านบาท"นายทวีพล กล่าว
นายทวีพล กล่าวว่า จุดแข็งของบริษัท คือ การเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ 2 ล้อรายแรก และรายเดียวที่มีการสมัครสินเชื่อรถจักรยานยนต์ด้วยตนเองผ่านเครื่อง SAMM (Self-Apply Machine for Motorcycle Loan) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่บริษัทได้พัฒนาออกมาช่วยให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อได้ด้วยตัวเองที่ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยบริษัทได้พัฒนา SAMM โมเดลแรกขึ้นมาในปี 53 จากนั้นได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ SAMM เวอร์ชั่น 1 จนมาถึงเวอร์ชั่น 4 ปัจจุบันมีเครื่อง SAMM กว่า 400 เครื่อง และพร้อมขยายเพิ่มเติมตามปริมาณธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยสิ้นปีนี้คาดจะมีเครื่อง SAMM 500 ตู้
ปัจจุบัน สัดส่วนลูกค้า แบ่งเป็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนประมาณ 40-50% และที่เหลือเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตร ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบันอยู่ที่ 3% ใกล้เคียงกับปีก่อน และในสิ้นปี 62 คาดจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.2-3.3% จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังซื้อชะลอตัวตาม
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากยื่นไปแล้วราว 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถให้บริการได้หลากหลาย และช่วยลดต้นทุนให้ลดลง