(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ การซื้อขายเงียบเหงาหลังตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกงปิดทำการ/รอดูเงินเฟ้อไทยวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 1, 2019 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ บรรยากาศการซื้อขายเงียบเหงา เนื่องจากตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงได้ปิดทำการวันนี้ แต่ตลาดฯก็ยังมีปัจจัยบวกเล็ก ๆ จากเรื่องที่สหรัฐฯได้ปฏิเสธข่าวที่จะจำกัดการลงทุนในจีน อย่างไรก็ดียังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เริ่มเคลื่อนไหวในแดนบวก คาดว่าจะเป็นผลจากตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์ส ได้ปรับตัวดีขึ้นในเช้านี้ พร้อมให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่จะทยอยประกาศออกมา ส่วนบ้านเราก็ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยงวดเดือนก.ย.

พร้อมให้แนวรับ 1,634-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,916.83 จุด เพิ่มขึ้น 96.58 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,976.74 จุด เพิ่มขึ้น 14.95 จุด (+0.50%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,999.34 จุด เพิ่มขึ้น 59.71 จุด (+0.75%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 75.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.12 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.17 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 5.12 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ (1 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ก.ย.62) 1,637.22 จุด ลดลง 6.54 จุด (-0.40%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,135.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ก.ย.62) ปิดที่ 54.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ก.ย.) อยู่ที่ 5.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.58 แนวโน้มทรงตัวรอปัจจัยใหม่ ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย-กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
  • กพอ.รับทราบ ลงนามไฮสปีด "ซีพี" 15 ต.ค.นี้ รฟท.ชี้ส่งมอบพื้นที่ได้ทันที 70% สูงกว่าอาร์เอฟพีกำหนด ส่วนที่เหลือไม่เกิน 1 ปีครึ่ง นายกฯ สั่งทำแผนย้ายสาธารณูปโภคเสร็จก่อนลงนาม "ศักดิ์สยาม" เปิดทางขยายเวลาก่อสร้าง กนอ.ลงนามมาบตาพุดวันนี้ "คณิศ" มั่นใจ ต.ค.ลงนาม 3 โครงการ
  • "แบงก์ชาติ" ยืนยันเศรษฐกิจไทยแค่ชะลอตัวไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยอมรับหั่น "จีดีพี" ลงเหลือโต 2.8% จากพิษสงครามการค้ารุนแรงขึ้น ห่วง "เงินบาท" แข็งเร็วยิ่งกระทบเศรษฐกิจ ลั่นพร้อมใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติมหากการเติบโตต่ำคาดขณะสัญญาณเศรษฐกิจเดือนส.ค. ชะลอตัวเกือบยกแผง ยกเว้นภาคการท่องเที่ยว
  • "บิ๊กตู่" กดปุ่มเปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค) อย่างเป็นทางการ ย้ำรัฐบาลเร่งเพิ่มโครงข่ายขนส่งมวลชนตามแผนเพื่อแก้จราจร รฟม.เตรียมจัดโปรโมชันหนัก ลดค่าครองชีพประชาชน ออกตั๋วเที่ยว ใช้สีน้ำเงินร่วมกับสีม่วง ให้ส่วนลดสูงสุด 33% ส่วนสีม่วงเก็บ 20 บาทตลอดสายช่วงกลางวัน ด้าน BEM พร้อมร่วมมือ ไม่คิดค่าชดเชยใดๆ คาดผู้โดยสารปีนี้โต 7-8% เพิ่มจากเป้าเดิม หลังเปิดเดินรถส่วนต่อขยาย และกำลังจะเปิดทดลองช่วงเตาปูน-ท่าพระ ธ.ค.นี้
  • กบน.ปรับโครงสร้างเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามมติ กพช. ปูทางให้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซล B7 ไม่เปลี่ยนแปลง B10 ลดลงลิตรละ 1 บาท และ B20 เพิ่มขึ้นลิตรละ 2 บาท มีผล 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ส่งผลให้ B7 ราคาสูงกว่า B10 ถึงลิตรละ 2 บาท และแพงกว่า B20 3 บาท
  • "พาณิชย์" เผยไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่ม หากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลงเหตุจะมีสินค้ากลุ่มที่เคยถูกเก็บภาษี จะได้รับการยกเว้นภาษี 1 ปี พร้อมแนะจับตาอย่างใกล้ชิด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AOT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 87 บาท AOT แจ้งจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าเบื้องต้นของเดือน ก.ย. (1-28) เพิ่มขึ้น 10.3%yoy เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นับเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนและผลกำไรของ AOT ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้ยังได้ปัจจัยบวกจาก China Golden week ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
  • BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 22 บาท คาดกำไรปกติ Q3/62 ทำ new high ที่ 396 ล้านบาท +51% Q-Q, +11% Y-Y จากอานิสงส์ของ high season ทำให้รายได้กลุ่มเงินสดของโรงพยาบาลเดิมและ WMC โตโดดเด่น บวกกับแรงหนุนจากรายได้ส่วนเพิ่มของค่าภาระเสี่ยง ส่วนกำไร Q4/62 ยังแกร่งหลังรพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง เปิดให้บริการครบ 1 ปีเริ่มถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ขณะที่ WMC จะเปิดศูนย์ IVF หนุนการเติบโตในระยะถัดไป จึงยังคาดกำไรปกติปีนี้ +14% Y-Y เป็น 1,240 ล้านบาท และปี 2563 +12% Y-Y มีลุ้น upside จากการขึ้นค่าหัวประกันสังคม (รพ.เอกชนขอขึ้นเฉลี่ย 12%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ