โบรกเกอร์ ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/62 เติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ มาที่ 8.6 -8.8 พันล้านบาท มาจากรายได้เพิ่มขึ้นหลังจากแพคเกจ Fixed Speed Unlimited Package ครบกำหนด 1 ปีในไตรมาส 3/62 ซึ่งเป็นโปรโมชั่นราคาต่ำจะหมดไป
และต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง จากที่ได้ทำสัญญาระงับข้อพิพาทกับบมจ. ทีโอที และซื้ออุปกรณ์ระบบ 2G ของทีโอทีในราคา 240 ล้านบาท ทำให้ประหยัดต้นทุนไปอย่างมีนัยสำคัญราว 2 พันล้านบาท/ปีตั้งแต่เดือน ก.ย.62 จากเดิมจ่ายค่าเช่าเดือนละ 167 บาท รวมทั้งมีกำไรเกิดขึ้นครั้งเดียวจากการยุติข้อพิพาทกับทีโอที ก่อนภาษี 329 ล้านบาทและค่าเช่าส่วนที่ยังไม่สำรองฯ 121 ล้านบาทบันทึกเข้ามาในไตรมาสนี้รวม 450 ล้านบาท ทำให้โบรกเกอร์ได้เพิ่มมุลค่าหุ้นขึ้นมา 9 บาท/หุ้น
เมื่อเวลา 14.49 น. ราคาหุ้น ADVANC อยู่ที่ 220 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.46%) สวนกับ SET ลบ 12.29 จุด (-0.76%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ดีบีเอสวิคเคอร์ส ซื้อ 264 โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 261 กรุงศรี ซื้อ 260 ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 260 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ซื้อ 259 เคทีซีมิโก้ outperform 247 ฟิลลิป ทยอยซื้อ 238 เคทีบี ถือ 225 ทิสโก้ ถือ 224 นักวิเคราะห์จาก บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น ADVANC และให้ราคาเป้าหมาย 261 บาท (ในปี 63) เพิ่มจากครั้งก่อนที่ 260 บาท ได้รับประโยชน์จากที่ ADVANC ซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G จากทีโอทีแทนการเช่าใช้ และเลือกให้ ADVANC เป็น Top Pick ของกลุ่มสื่อสาร คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 8.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/61 (YoY) 29% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/62 (QoQ) 13% และทั้งปี 62 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน โดยคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจัยบวกมาจากรายได้จากการบริการกลับมาเติบโต หลังจากกลุ่มลุกค้ามือถือที่ใช้แพ็กเกจ Fixed Speed Unlimited Package ครบกำหนด 1 ปีในไตรมาส 3/62 ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการเพิ่มสูงขึ้น โดยลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจนี้มีสัดส่วน 30% ของลูกค้ารายเดือน นอกจากนี้ เมื่อเดือน ก.ย.62 บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) บริษัทย่อย ADVANC ได้ทำสัญญาระงับข้อพิพาทและซื้อขายอุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G กับทีโอที โดยที่ ADVANC จะยอมจ่ายค่าเช่าย้อนหลังพร้อมกับซื้ออุปกรณ์ 2G บางส่วนจากทีโอที รวมเป็นมูลค่า 930 ล้านบาท เพราะถ้าอิงตามธุรกรรมข้างต้น จะทำให้ ADVANC ประหยัดค่าเช่าในส่วนอุปกรณ์ 2G จากทีโอที ลงทันที 167 ล้านบาท/เดือนตั้งแต่ช่วงก.ย.62 เป็นต้นไป หรือคิดเป็นมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท/ปี รวมทั้งยังได้รายการพิเศษที่เป็นรายการกลับมาจากที่บริษัทจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ 2G ไปเดือน ม.ค.-มิ.ย.62 มาประมาณ 400 ล้านบาท ดังนั้นจึงเห็นว่า ADVANC จะมี EBITDA Margin เติบโตในอัตราเร่งมากขึ้น น่าจะทำให้ผลประกอบการโดดเด่นกว่ารายอื่น ส่วนประเด็น 5G ยังคงคาดว่าจะเปิดประมุลต้นปี 63 ซึ่งขณะนี้ กสทช.ยังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าคลื่น 2600 เมกะเฮิร์ตซ จึงเห็นว่าเร็วเกินไปที่จะพิจารณาในส่วนนี้ นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนะนำ"ซื้อ" ADVANC ราคาพื้นฐาน 264 บาท คาดรายได้เพิ่มขึ้นและต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงส่งให้กำไรในไตรมาส 3/62 เติบโต ทั้งนี้ การทำสัญญาระงับข้อพิพาทกับทีโอที และซื้ออุปกรณ์ 2G เพิ่มมูลค่าหุ้นได้ 9 บาท/หุ้น โดยตามสัญญา ADVANC จะจ่ายค่าใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G ให้ทีโอที 680 ล้านบาท (ตั้งสำรองฯไว้แล้ว 559 ล้านบาท จะจ่ายเพิ่มอีกเพียง 121 ล้านบาท) และซื้ออุปกรณ์ 2G มูลค่า 244 ล้านบาทบวกค่าเช่าเดือนก.ค.-ส.ค.62 อีก 6 ล้านบาทรวมเป็น 250 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันจ่ายค่าเช่าอยู่ 167 ล้านบาท/เดือน การซื้อจึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 2 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/62 คาดกำไรสุทธิที่ 8.8 พันล้านบาท เติบโต 31.4% YoY และเติบโต 12.9% QoQ โดยเป็น Core Profit 8.5 พันล้านบาท จากรายได้ไม่รวม IC ที่เพิ่มขึ้น 4.8% YoY หลังหมดโปรโมชั่นราคาต่ำ และมีกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการยุติข้อพิพาทกับทีโอที ก่อนภาษี 329 ล้านบาทและค่าเช่าส่วนที่ยังไม่สำรองฯ 121 ล้านบาทบันทึกเข้ามาในไตรมาสนี้รวม 450 ล้านบาท และ ADVANC มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ อัตราผลตอบแทน 3.7% ต่อปี บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรปกติ ไตรมาส 3/62 ของ ADVANC ที่ 8,246 ลบ. +2.9% QoQ, 19.1% Y-Y และหากรวมการกลับรายการค่าเช่าเสาช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ราว 400 ล้านบาท หลังทำสัญญาและยุติข้อพิพาทกับทีโอที กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 8,646 ล้านบาท +11.5% Q-Q, +27.1% Y-Y เราคาดรายได้จากการให้บริการไม่รวม IC ยังโตต่อเนื่อง +0.2% Q-Q, +7% Y-Y โดยเฉพาะผลของปรับ Package ของลูกค้าล้อตใหญ่ที่ใช้งาน Fixed-Speed Unlimited Package ครบ 1 ปี ส่วนธุรกิจ Fixed Broadband และ Enterprise คาดยังเติบโตในระดับที่ดี ขณะที่ต้นทุนคาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้หลังการลงทุนโครงข่ายเริ่มลดลง สัญญาใหม่กับ TOT ที่ถูกลง ส่งผลให้ EBITDA Margin ในไตรมาส 3/62 คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/62 เป็น 45.6% และเพิ่มขึ้นจาก 42.5% ใน ช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจากการระงับข้อพิพาทและตกลงซื้ออุปกรณ์ 2G กับทีโอที จะทำให้ต้นทุนลดอย่างมีนัยยะ จากเดิมค่าเช่าปีละราว 2,000 ล้านบาท แต่ซื้อในราคา 250 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน มองว่ายังไม่น่ากังวลแม้จะมีการแข่งด้านราคามากขึ้นในบางตลาด แต่โดยรวมยังไม่น่ากังวล โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรในปี 62-63 ที่คาดโตเฉลี่ยปีละกว่า 8% YoY ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสในการ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 63 ที่ 260 บาท