นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้จากดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 3/62 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารลง ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยลดลงตาม โดยที่ธนาคารจะต้องมีการมองหารายได้อื่นๆเข้ามาชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่ลดลงไป เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมบางรายการเพิ่มขึ้น พร้อมกับการหาช่องทางเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ๆ รวมไปถึงการหาช่องทางบริการใหม่เพื่อสร้างรายได้เข้ามาหรือสามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น
"ลดดอกเบี้ยก็ทำให้รายได้ลดเป็นธรรมดา แต่เมื่อดอกเบี้ยลดลงก็ต้องหารายได้ใหม่ๆเข้าชดเชย เช่น เปิดบริการใหม่ๆ การให้กู้เพิ่ม และเก็บค่า Fee บางอย่างเข้ามาชดเชย แต่การปล่อยกู้เพิ่มก็เป็นสิ่งที่ควรขยาย แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีใครใช้หรือเปล่า ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้"นายเดชา กล่าว
ขณะที่แนวโน้มของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอนมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน ที่ได้รับผลกระทบและเกิดความวุ่นวาย ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งการที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวก็กระทบมาถึงเศรษฐกิจไทยด้วย และมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนต่างๆ ซึ่งส่งผลมาถึงความต้องการใช้สินเชื่อที่ชะลอตัวตามไปด้วย ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารยังมีความไม่แน่นอนว่าจะปรับตัวดีขึ้นหรือลดลง
นายเดชา กล่าวถึงโครงการเกษตรก้าวหน้าของธนาคารว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเกษตรเข้าร่วมโครงการจำนวน 5,000 ราย โดยที่ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือในด้านการปรับตัวของธุรกิจเกษตรที่ปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อการขายสินค้าเกษตรและรายได้ของผู้ประกอบลดลง ซึ่งธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือ
นอกจากธนาคารยังเน้นไปที่การให้ความรู้ ความเข้าใจ ด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้กับเกษตรให้มากขึ้นเพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันเกษตรกรมีปัญหาด้านความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีทำให้การผลิตขาดประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถให้เพิ่มขึ้น