น.ส.ชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) คาดว่า บริษัทจะสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาในอัตราไม่ต่ำกว่า 30-40% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 205 ล้านบาท เป็นการขยายตัวในทิศทางเดียวกับปริมาณงานด้านตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นตามอุตสาหกรรมพลังงาน น้ำมัน ปิโตรเคมีทั้งในและต่างประเทศ
ประกอบกับ ปีนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะทำให้ปริมาณงานยิ่งเพิ่มมากขึ้น
"ปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะขยายตัว 30-40% ทะลุ 250 ล้านบาทได้" น.ส.ชมเดือน กล่าว
นางสาวชมเดือน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 18% แม้ว่ายังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับการลดภาษีเงินได้เหลือ 20% จากการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยบริษัทจะพยายามควบคุมต้นทุนการผลิต ขณะเดียวกันปัจจุบันมีคู่แขงจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเจรจางานใหม่ประมาณ 50 ล้านบาท จำนวน 8-9 โครงการน่าจะมีข้อสรุปภายในเดือนมี.ค.นี้ โดยตั้งแต่ม.ค.-ก.พ.51 มีงานในมือเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท ซึ่งรวมงานในมือ ณ สิ้นปี 50 ที่มีอยู่ 30 ล้านบาท ทั้งหมดจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้
บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มรับงานเพิ่มขึ้น เพราะธุรกิจของบริษัทยังพึ่งพิงผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีความแข็งแรง และบริษัทพยายามทำงานที่สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งในปีนี้บริษัทจะขยายธุรกิจในส่วนการให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยกระบวนการทดสอบที่ไม่ทำลาย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงเพิ่มขึ้น เพื่อหวังเพิ่มอัตรากำไร แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีลูกค้าเข้ามา แต่มีบุคลากรพร้อมเข้าไปรับงานแล้ว
"เราประเมินอย่าง conservative ที่เราทำได้ แต่ถ้าบุคลากรที่พร้อมมากขึ้นเราก็คิดว่ามันก็น่าจะเพิ่ม ยังเหลืออีก 9 เดือน ที่เรายังมีโอกาสจะได้งานใหม่"นางสาวชมเดือน กล่าว
สำหรับงานใหม่ ๆที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรงงานปิโตรเคมีและโรงแยกก๊าซที่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบในขั้นตอนบำรุงรักษา นอกจากนี้จะมีโรงไฟฟ้าไอพีพี ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของบริษัทเช่นกัน
นายนิมิตร หาญวุฒิพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน TNDT เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่กล้ายืนยันว่าจะได้รับสิทธิทางภาษี ในการเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ เนื่องจาก พ.ร.ฎ.ที่กำหนดให้บจ.ใหม่ได้รับสิทธิดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 18 ต.ค.50 แต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 28 ก.ย.50 แม้ว่าใน พ.ร.ฎ.จะระบุให้สิทธิกับบจ.ที่เข้าจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. และเข้าเทรดภายใน 31 ธ.ค.51 แต่ก.ล.ต.ก็ยังตอบไม่แน่ชัด จึงสอบถามไปที่กรมสรรพากร คาดว่าจะได้รับตวามชัดเจนภายในไตรมาส 1/51
"เรื่องนี้ผมไม่กล้าฟันธงเพราะอ่านแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้สิทธินี้หรือเปล่า แต่มาบอกให้กับผู้ลงทุนว่าเรามีปัญหาข้อกฎหมายนี้ ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับผู้ลงทุน"นายนิมิตร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--