นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดตัวลงจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วง 1-2 วันนี้ค่อนข้างชะลอตัว
รวมถึงความกังวลต่อการเปิดสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและยุโรปหลัง WTO ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ และสหรัฐ ประกาศจะเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ โดยจะเก็บภาษีเครื่องบินพลเรือนขนาดใหญ่ ในอัตรา 10% และเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่น ๆ ขณะที่ความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงมีอยู่
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังกดดันต่อการลงทุนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ให้ปรับตัวลดลงด้วย และน่าจะส่งผลมายังตลาดหุ้นไทยในเช้านี้ รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ก็น่าจะยังกดดันต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่ตลาดยังจับตาในช่วงใกล้ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งจะเริ่มจากกลุ่มสถาบันการเงินก่อน แต่ภาพรวมก็ยังมีทิศทางที่ไม่สดใสนัก รวมถึงนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศยังขายสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทย น่าจะถ่วงภาพรวมการลงทุน ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาก็ไม่ได้ส่งผลบวกต่อตลาดมากนัก
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ต่างปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมา 3 วันติดต่อกัน ก็น่าจะทำให้การปรับตัวลงจะยังอยู่ในกรอบ โดยมองแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,620-1,625 จุด