นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/62 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทจัดงาน Thailand Mobile Expo 2019 ครั้งที่ 34 ในวันที่ 3-6 ต.ค.62 คาดว่าจะมียอดผู้เข้าชมงานราว 6-7 แสนคน/วัน และมียอดเงินสะพัดกว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่ายอดเงินสะพัดภายในงานคงปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มสินค้า Handset มียอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยงานครั้งนี้ก็คาดว่าจะลดลงประมาณ 5% เป็นผลจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการซื้อเพื่อรอการมาของเทคโนโลยี 5G แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าประเภท Gadget ต่างๆ จะได้รับการตอบรับที่ดี และน่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น
นอกจากนั้น ในการจัดงานครั้งนี้บริษัทยังมีการจัดอีเว้นท์อื่นๆ เข้ามาเสริม ได้แก่ งาน Digital Content Expo ที่จะมีการนำเสนอสินค้าในรูปแบบ Streaming App, Content VR และ ฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงงาน E-Sport Expo, งาน Idol Expo, รวมถึงงาน EV Expo ซึ่งน่าจะช่วยสร้างการเติบโตของรายได้และดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาในงานได้
นายโอภาส กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทยังเตรียมจัดงานท่องเที่ยวเชิงกีฬา ได้แก่ งานวิ่งจอมบึงมาราธอน จ.ราชบุรี และยังคาดว่าจะได้รับเป็นผู้จัดงานวิ่งเทรลให้กับหน่วยงานภาครัฐในช่วงปลายปีนี้ด้วย รวมถึงยังมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ Big Mountain Music Festival 2019, งาน Wonder Fruit 2019 เป็นต้น
การจัดงานอีเว้นท์กีฬาและคอนเสิร์ตดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมียอดเช่ารถบ้านในไตรมาส 4/62 เต็มทั้งหมดแล้ว จากปัจจุบันมีอยู่เกือบ 113 คัน อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังมีแผนนำรถบ้านไปให้บริการในสถานท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีที่พัทยา และคาดจะขยายไปยังหัวหิน และสุราษฎร์ธานีต่อไป อีกทั้งมีแผนเพิ่มจำนวนรถบ้านอีก 100 คันในปี 63 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
"เราคาดว่าไตรมาส 4/62 จะเติบโตดีขึ้นกว่าทุกไตรมาส และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีงาน Thailand Mobile Expo ที่จัดในต้นไตรมาสนี้ และมีงานอีเว้นท์อื่นๆ อีกหลายงาน ส่วนไตรมาส 3/62 ก็คาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะไม่มีงาน Thailand Mobile Expo แต่ปีนี้ก็ไม่มีคดีความฟ้องร้องลูกค้าในโครงการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแล้ว หลังจากได้ตั้งสำรองฯ ไปแล้ว"นายโอภาส กล่าว
ขณะที่คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นจะตัดสินในวันที่ 10 ต.ค.นี้ หากผลคดีออกมาเชิงบวก บริษัทก็จะสามารถบันทึกกลับสำรองฯ ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย โดยคณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมในเดือน พ.ย.นี้เพื่อรับรองงบการเงินในไตรมาส 3/62 ซึ่งคำตัดสินจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท
สำหรับประเด็นเรื่องของการเปลี่ยนมือของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นายโอภาส ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และทางผู้บริหารไม่มีแนวคิดจะขายหุ้นออกเช่นกัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมานายธราธร ยวงบัณฑิต ผู้ถือหุ้น MVP ขายหุ้น 13% ให้กับนางสาวณมน พเยียสวัสดิ์ เข้ามาถือหุ้น ขณะที่นายธราธรคงเหลือถือหุ้นราว 4%