ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,610.69 จุด ลดลง 2.95 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 37,833.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,614.84 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,605.13 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 462 หลักทรัพย์ ลดลง 848 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 550 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ในแดนลบ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และค่อนข้างไวต่อสิ่งที่เข้ามากระตุ้นค่อนข้างมาก เมื่อมีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรป นอกเหนือจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ทำให้ตลาดได้รับผลกระทบค่อนข้างแรง
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยจากภายในประเทศช่วยประคองตลาด จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีออกมา ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ อย่างกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว ให้สามารถปรับขึ้นหรือยืนทรงตัวได้
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดยังมีแนวโน้มหลักเป็นขาลงจากปัจจัยลบที่ยังปกคลุมตลาด แต่การที่ดัชนีปรับตัวลงมามากแล้วก็อาจจะดีดตัวระหว่างวันได้ แต่ภาพหลักยังเป็นทิศทางลงอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนยังจับตาเพิ่มเติมต่อการชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกงช่วงวันสุดสัปดาห์ที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าดัชนีจะยังพยายามยืนระดับ 1,600 จุด แต่หากหลุดก็จะเผชิญแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,590 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,615 และ 1,620 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,984.70 ล้านบาท ปิดที่ 399.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,328.08 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,024.44 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,335.79 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,083.89 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท