ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,605.96 จุด ลดลง 4.73 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 37,810.77 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,615.33 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,603.61 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 486 หลักทรัพย์ ลดลง 864 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 534 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เป็นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็บวกได้แค่เล็กน้อย เนื่องจากตลาดฯต่างรอปัจจัยใหม่เข้ามา
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การตอบโต้ของสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปตามคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) และยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในสัปดาห์หน้าด้วย แม้ว่าขณะนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กว่าจะประชุมก็อีกนาน อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯด้วย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโมเมนตัมเป็นลบ โดยวอลุ่มเทรดก็ดูหดหายไปด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,590-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,821.39 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,754.05 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,389.29 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,298.67 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,216.47 ล้านบาท ปิดที่ 80.75 บาท ลดลง 0.75 บาท