หุ้น GPSC ราคาขยับขึ้น 3.19% มาอยู่ที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 555.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 71 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 73 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 70.75 บาท
ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ราคาเป้าหมาย 78 บาท/หุ้น Bond yield ที่ลดลง จะหนุนให้ตลาดกลับมาสนใจหุ้นปันผลและหุ้นที่ให้รายได้มั่นคงอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งมองว่า GPSC ยังมีความน่าสนใจ เนื่องจาก Valuation ยังไม่แพงหากเทียบกับกำไรที่จะเพิ่มขึ้นจากการรวมหุ้นและผลประกอบการของบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4/62
ด้านบล.ไอร่า แนะ"ซื้อ"หุ้น GPSC คาดกำไรสุทธิปี 63 เพิ่มขึ้น 23% อยู่ที่ 4,482 ล้านบาท ทั้งนี้ กระบวนการเพิ่มทุนใกล้สิ้นสุดแล้ว หลังขึ้น XR เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2562 ซึ่งกำหนดราคาเพิ่มทุนหุ้นละ 56 บาท อัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 0.8819 หุ้นใหม่ ช่วงวันที่ 30 ก.ย.-4 ต.ค. 2562 โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้เมื่อรวมกับเงินกู้ธนาคาร เพื่อเข้าซื้อกิจการ GLOW มูลค่าประมาณ 1.35 แสนล้านบาท และจะ Delist หุ้น GLOW ออกจากบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ คาดการเติบโตปี 62 และ 63 มาจากการเปิดดำเนินงาน (1) โครงการน้ำลิก1 ขนาด 64.7 MW (GPSC 40%) (2) โครงการไซยะบุรี ขนาด 1,285 MW (GPSC 25%) (3) โครงการ CUP4 ขนาด 45 MW และ CUP3 ส่วนขยาย 15 MW และ (4) NNEG expansion ขนาด 18 MW โดยรวมจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต GPSC เป็น 4,766 MW ณ ปลายปี 63
ส่วนปี 65 คาดกำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นจากหน่วยผลิตไฟฟ้าให้บมจ.ไทยออยล์ (TOP) กำลังการผลิต 250 MW และทำให้กำลังผลิตรวมของ GPSC อยู่ที่ 5,026 MW พร้อมคาดในอนาคตการเติบโตไปตามกลุ่ม PTT และการขายไฟฟ้าให้โครงการต่างๆ ตามเขต EEC และมาบตาพุด
สำหรับธุรกิจที่คาดว่าจะเป็น S-curve ให้กับ GPSC ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่ การกักเก็บพลังงาน (ESS) และบริหารจัดการพลังงาน (Energy Solution Provider)
พร้อมคาดผลการดำเนินงานปี 62 มีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 76 บาท