นางสุชาดา ภวนานันท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทเชื่อว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การลงทุน(AUM)จะเพิ่มขึ้นมาที่ 1.2 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 7.8 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตของ AUM ในปีนี้จะมาจากกองทุนที่ลงทุนในตลาดเงิน(Money Market Fund)
ที่ผ่านมาบริษัทได้ออกกองทุน T-Cash ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารแห่งหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี ผลตอบแทนเติบโตถึง 44% โดยภายในระยะเวลา 7 สัปดาห์ขนาดของกองทุนเพิ่มเป็น 3.1 หมื่นล้านบาทจากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท
และในเร็วๆ นี้ บริษัทจะเปิดกองทุนในตลาดเงินอีก 1 กองทุน คือ T-Money ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตร อายุ 3-4 เดือน กำหนดขายในวันที่ 4-11 มีนาคม และคาดผลตอบแทนจะอยู่ที่ 2.5%
นอกจากนี้ ในปีนี้จะมีการออกกองทุนเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (FIF)จำนวน 4-5 กองทุน โดยจะเริ่มเห็นในไตรมาส 2 แต่คงต้องขึ้นกับภาวะตลาดด้วย
ด้านนายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวว่า อัตราการเติบโตของตลาดหุ้นไทยในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% ลดลงจากปีก่อนที่เฉลี่ยเติบโต 26% เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ยังเป็นปัญหา และส่งผลต่อตลาดหุ้นอื่นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การที่การเมืองมีความชัดเจนขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการลงทุน และส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยได้บ้าง
"ตอนนี้ถือเป็นจังหวะของกองทุนตลาดเงิน ภายใต้แนวโน้มดอกเบี้ยที่ทรงตัวและมองว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นที่จะต้องให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเกินไป เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อประเทศ และอาจกระทบต่อผู้ที่ออมเงิน และมองว่าการที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 3.25% ถือว่าไม่สูงภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน" นายบุญชัย กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--