นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายในช่วงไตรมาส 3/62 ได้ถึงกว่า 10,188 ล้านบาท เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ที่เปิดตัวอย่างต่อเนื่องจำนวน 4 โครงการ ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2 ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมาย โดยมีถึง 3 โครงการที่สามารถปิดการขายได้แล้ว 100% (Sold Out) ได้แก่ ดิ ออริจิ้น รามคำแหง 209 อินเตอร์เชนจ์ , ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว และดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15
ขณะเดียวกัน ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 ที่เพิ่งเปิดพรีเซลเมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ส่งผลให้ภาพรวมอัตรายอดขาย (Take up rate) ของแบรนด์ดิ ออริจิ้นที่เปิดตัวไป 4 โครงการ สูงถึงกว่า 85% สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ Blue Ocean ของบริษัท ที่มุ่งเจาะทำเลศักยภาพที่ยังมีการแข่งขันไม่สูง และความสำเร็จของการเจาะตลาดกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อใหม่ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใดเข้าไปครองตลาด
นอกจากนี้ โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) 2 โครงการ ที่ทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2-3 มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,500 ล้านบาท ก็สร้างยอดขายกลับมายังบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน และโครงการพาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี ต่างมียอดขายแล้วกว่า 80% ขณะเดียวกัน โครงการเคนซิงตัน ระยอง คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ภายใต้โครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง ก็ได้รับการตอบรับที่น่าพึงพอใจ ล่าสุดคิดเป็นยอดขาย 90% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย
ทั้งนี้ จากกระแสตอบรับที่ดีตลอดทั้งไตรมาส 3 ส่งผลให้บริษัทมียอดขายสะสม 9 เดือนแรกของปี 62 อยู่ที่ 23,148 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83% ของเป้าหมายยอดขายของทั้งปี 62
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทยังมีโครงการที่จะทยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกจำนวนมาก เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ดิ ออริจิ้น 2 โครงการ โครงการบ้านจัดสรรแบรนด์บริทาเนีย (Britania) อีก 4-5 โครงการ โครงการนอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการไฮไลต์ภายใต้โครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) รวมถึงโครงการเดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต (The Hampton Sriracha by Origin and Dusit) ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับกลุ่มดุสิตธานี (DTC) คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท
"ด้วยจุดแกร่งเรื่องความเข้าใจลูกค้าหรือ Empathy ภาพรวมปีนี้ เราจึงคัดสรรทำเลศักยภาพ โครงการคุณภาพ ในเซ็กเมนท์ที่เหมาะสม มาเปิดตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน เรายังมีโครงการพร้อมอยู่ หรือ Ready to move แนวรถไฟฟ้าในอีกหลากหลายทำเลที่ยังคงมีผู้บริโภคทยอยเข้ามาจับจองกันอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าปีนี้เราจะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 28,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทยังเตรียมออกโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคอีกด้วย คาดว่าจะเปิดตัวโปรโมชั่นได้เร็วๆ นี้