นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโครงการ ORIGIN Smart City รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 6 พันล้านบาท เป็นโครงการ Smart City ของบริษัทแห่งแรกในกรุงเทพฯ หลังจากที่เปิดตัวไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ศรีราชาและระยอง
ORIGIN Smart City รามอินทรา เป็นโครงการ Mixed Use ที่ประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียม Low rise, คอนโดมิเนียม High rise, โรงแรม 3 ดาวครึ่ง และพื้นที่ค้าปลีก โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการทั้งหมดในช่วงปี 65
เฟสแรกจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Low rise 8 ชั้น 8 อาคาร จำนวนรวม 879 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต ขนาด 22.50-44 ตารางเมตร ภายใต้ชื่อโครงการ THE ORIGIN รามอินทรา 38 สเตชั่น ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีโรงพยาบาลสินแพทย์ และใกล้ทางด่วน กำหนดราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้เจาะกลุ่มลูกค้า GEN Z ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ย 79,900 บาท/ตารางเมตร เปิดจองครั้งแรกวันที่ 19 ต.ค.62 บริษัทตั้งเป้ายอดขายช่วงพรีเซลราว 70% ของมูลค่าโครงการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ดินย่านรามอินทรามีการเติบโตขึ้นทุกปีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี จากปัจจุบันราคาขายที่ดินย่านรามอินทราอยู่ที่ 340,000 บาท/ตารางวา และคาดว่าราคาที่ดินย่านดังกล่าวในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มมาอยู่ที่ 440,000 บาท/ตารางวา ขณะที่ราคาขายคอนโดมิเนียมในอีก 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 110,000 บาท/ตารางเมตร จากปัจจุบันที่ 85,000 บาท/ตารางเมตร และในย่านดังกล่าวถือว่ามีคอนโดมิเนียมเปิดไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบระดับบนที่กระจายอยู่โดยรอบ ขณะที่ยังคงมีลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท
สำหรับการเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียม THE ORIGIN เป็นแบรนด์ใหม่นั้น ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 4 โครงการ คือ สุขุมวิท 105, รัชดา-ลาดพร้าว, ลาดพร้าว 15 และรามคำแหง โดยที่รามอินรา 38 เป็นโครงการที่ 5 และในปลายปีนี้จะเปิดอีก 1 โครงการทำเลย่านสะพานใหม่
ทั้งนี้ แบรนด์ THE ORIGIN สามารถสร้างยอดขายได้เกือบ 90% ของมูลค่าโครงการที่เปิดในปีนี้ ส่วนในปี 63 จะมีการเปิดแบรนด์ THE ORIGIN ในโครงการ ORIGIN Smart City รามอินทรา เฟส 2 เป็นคอนโดมิเนียม High rise โดยที่ราคาขายจะขยับขึ้นไปที่เฉลี่ย 120,000 บาท/ตารางเมตร
นางสาวทิฆัมพร พงศ์เพ็ชร VP of Business Development บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือ ORI เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการ ORIGIN Smart City รามอินทรา ในเฟส 3 จะพัฒนาเป็นโรงแรม 3 ดาว จำนวน 409 ห้อง และพี้นที่ค้าปลีก 2,700 ตารางเมตร ซึ่งไนส่วนของโรงแรมจะแบ่งเป็นห้องพักให้เช่ารายวัน 70% และอีก 30% จะเป็นห้องพักให้เช่าระยะยาวสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติและรองรับลูกค้าที่ต้องการพักอาศัยเพื่อรักษาตัวใกล้กับโรงพยาบาล โดยมีพันธมิตรเป็นโรงพยาบาลสินแพทย์
ส่วนพื้นที่ค้าปลีก 2,700 ตารางเมตร จะประกอบไปด้วยร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง และคอฟฟี่ช็อปที่ตอบโจทย์กับไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่ โดยที่ร้านอาหารบริษัทได้พันธมิตร คือ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) จะนำร้านอาหารในเครือเข้ามาเปิดให้บริการ ส่วนร้านสะดวกซื้อจะเป็นเซเว่น อีเลฟเว่น และคอฟฟี่ช็อปจะเป็นสตาร์บัคส์ โดยโครงการส่วนนี้จะเปิดให้บริการในช่วงปี 65
นางสาวทิฆัมพร กล่าวว่า วัน ออริจิ้น มีแผนพัฒนาโรงแรม 10 แห่ง จำนวน 3,000 ห้อง ภายในปี 66 โดยที่มีการประกาศการพัฒนาออกมาชัดเจนแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรม Holiday inn & Suites ศรีราชา มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 4/62 และโรงแรม Staybridge ทองหล่อ จะเปิดให้บริการไตรมาส 4/62 นอกจากนั้นยังมีโรงแรม Holiday inn Express ระยอง, โรงแรมในโครงการ ORIGIN Smart City รามอินทรา อีกทั้งมีแผนการพัฒนาโรงแรมต่อบนทำเลพญาไท และสุขุมวิท 59 เพิ่มเติม
บริษัทมีแผนจะนำโรงแรมทั้ง 10 แห่ง จำนวน 3,000 ห้อง จัดตั้งเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (REIT) คาดว่าจะมีมูลค่ารวมราว 3 หมื่นล้านบาท อีกทั้งอยู่ระหว่างการหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน เกรด B ขึ้นไป และโรงแรม ในเมืองใกล้รถไฟฟ้า เพื่อทำให้ธุรกิจของวัน ออริจิ้น มีการกระจายรายได้ที่เป็นรายได้ประจำในประเภทโครงการที่มีความหลากหลายมากขึ้น