นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบกัน ภายหลังจากที่ดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงแรง จากความกังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ดูจะไม่สดใส หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง และทางฝั่งจีนก็อาจจะจบการเจรจาการค้าเร็วขึ้น
ส่วนตลาดบ้านเราช่วงนี้ก็ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย ตอนนี้ก็รอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 3/62 ซึ่งจะทยอยออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดก็คาดว่าจะออกมาไม่ดี
พร้อมให้แนวรับ 1,605 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,164.04 จุด ร่วงลง 313.98 จุด (-1.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,893.06 จุด ลดลง 45.73 จุด (-1.56%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,823.78 จุด ลดลง 132.52 จุด (-1.67%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 11.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 156.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 12.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 40.38 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.06 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 227.94 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ต.ค.62) 1,612.17 จุด ลดลง 1.54 จุด (-0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 846.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ต.ค.62) ปิดที่ 52.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ต.ค.) อยู่ที่ 5.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.34/37 แนวโน้มแข็งค่า หลังตลาดกลับมากังวลสงครามการค้า มองกรอบวันนี้ 30.25-30.45
- "อนุทิน" สั่งเลื่อนเซ็น ไฮสปีดเป็น 25 ต.ค. อ้างปมบอร์ด รฟท. ลาออกยกชุด ยันไม่ล่าช้า "ศักดิ์สยาม" โยน สคร.เร่งสรรหา รอบอร์ดใหม่ชงครม.ก่อนลงนาม โยน "อุตตม" เคลียร์รายละเอียดส่งมอบพื้นที่ 10 ต.ค.นี้ แจงประเด็น "ธนินท์" ระบุเอกชนต้องรับเสี่ยง รฟท.ชี้เลื่อนเซ็นเพราะเผื่อเวลาแก้ปัญหาส่งมอบพื้นที่
- ศูนย์วิจัยฯไทยพาณิชย์ปรับลดจีดีพีเหลือ 2.8% เหตุทุกฟันเฟืองสะดุด ส่งออกติดลบหนักกว่าเดิม -2.5% การบริโภค-ลงทุนเอกชน และภาครัฐ หดตัว จัดทำงบประมาณ ปี 63 ล่าช้าซ้ำเติม ห่วงลากยาวกดดันปีหน้าเศรษฐกิจแย่ต่อ
- "สนธิรัตน์" เร่งเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้า-โรงไฟฟ้าชุมชน เปิดรับฟังความคิดเห็น 9 ต.ค.นี้ หวังสร้างรายได้พ่วงมาตรการลดฝุ่น PM2.5 ดันเศรษฐกิจฐานราก พร้อมลั่นส่งเสริมการค้าเสรีแอลเอ็นจี ให้ กฟผ.นำเข้าทดสอบระบบได้ปีนี้ ช.การช่างเตรียม COD โรงไฟฟ้าไซยะบุรีภายในเดือนตุลาคมนี้
- น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวหารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ 2 มาตรการเสริมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ 1.มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยและ 2.วันธรรมดาราคาช็อกโลก ซึ่งมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร สปา ผู้ให้บริการเรือยอชต์ เป็นต้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ในฐานะหุ้นปลอดภัยในยามความเสี่ยงภายนอกประเทศสูงขึ้น ขณะที่ทิศทางกำไร H2/62 ต่อเนื่องถึงปีหน้าเป็นขาขึ้นจากการแข่งขันที่ผ่อนคลายลง การควบคุมต้นทุนและรายจ่ายที่ทำได้ดี อุตสาหกรรมอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการลงทุนโครงข่าย 4G ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนการระงับข้อพิพาทและตกลงซื้ออุปกรณ์ 2G จาก TOT ทำให้ ADVANC ใช้เงินซื้ออุปกรณ์เพียง 250 ล้านบาท เทียบกับที่เคยจ่ายค่าเช่าราวปีละ 2 พันล้านบาท ประหยัดต้นทุนไปได้เกือบ 2 พันล้านบาท/ปี ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ
- JMT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 24 บาท ทยอยสะสมคาดแนวโน้มกำไรจะยังพุ่งทำ All time high ได้ทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี