ฝ่ายวิจัย บมจ.ศุภาลัย คาดว่าภาวะยอดขายที่อยู่อาศัยรวมปี 62 สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลในภาพรวมจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 หน่วย เมื่อเทียบกับยอดขายที่อยู่อาศัยรวมในปี 61 พบว่ายอดขายปีนี้ลดลงไปมาก เนื่องจากปีที่แล้วมีภาวะดีมาก อย่างไรก็ตาม ยอดขายในแต่ละปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับประมาณ 100,000 หน่วย
นายประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการที่ปรึกษา SPALI กล่าวว่า จากการศึกษาถึงพฤติกรรมของอุปสงค์ที่อยู่อาศัยรวมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วยข้อมูลย้อนหลังตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการขายที่อยู่อาศัยเมื่อเทียบกับปริมาณหน่วยที่ออกขายโดยรวมในตลาดนั้นอยู่ที่ระดับประมาณ 30% ต่อปี และมีลักษณะเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่าภาวะความต้องการที่อยู่อาศัยรวมยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจจะไม่ร้อนแรงเท่าปี 61 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาผสมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และส่งผลให้ปีที่ผ่านมายอดขายที่อยู่อาศัยรวมทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 120,000 หน่วย
ศูนย์วิจัย SPALI ประมาณการว่า ยอดขายที่อยู่อาศัยรวมในปี 62 จะอยู่ที่ระดับ 100,000 หน่วย โดยมีขั้นต่ำที่ 90,000 หน่วยและสูงสุดที่ 120,000 หน่วย แม้ว่ายอดขายในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 120,000 หน่วย แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบยอดขายที่อยู่อาศัยรวมย้อนหลังแล้ว พบว่ายังคงอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างจากในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือภาวะการขายในตลาดที่ผ่านมาอยู่ในช่วงประมาณ 100,000 หน่วยต่อปีอย่างสม่ำเสมอมาตลอด
อนึ่ง วิธีประมาณการยอดขายทั้งปีก่อนสิ้นปี เป็นสิ่งที่ศูนย์วิจัยศุภาลัยคิดค้นขึ้น เพื่อใช้ข้อมูลตลาดที่มีอยู่จริงมาประมาณการ โดยไม่ใช้ความรู้สึกซึ่งไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนมาประกอบการพิจารณา
แม้ว่ายอดขายในปี562 จะมีการปรับตัวลดลง แต่ในมุมมองของศูนย์วิจัยฯ มองว่าเป็นการปรับตัวเข้าสู่สภาวะการขายในระดับปกติของตลาด ซึ่งยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องและยังอยู่ในภาวะที่ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด