นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะย่อตัวลง เช่นเดียวกับตลาดดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลง เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน มีสัญญาณที่ออกมาไม่ดี ส่งผลให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่า 200 จุด ซึ่งน่าจะเป็น Sentiment ที่มากดดันตลาดบ้านเราด้วย
ส่วนการเข้าเทรดวันแรกของหุ้น บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) แม้จะทำให้วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น แต่หุ้นตัวนี้ยังไม่ได้นำเข้ามาในคำนวณดัชนีฯ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลอะไร
พร้อมให้แนวรับ 1,605 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,346.01 จุด เพิ่มขึ้น 181.97 จุด (+0.70%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,919.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.34 จุด (+0.91%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,903.74 จุด เพิ่มขึ้น 79.96 จุด (+1.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.11 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 57.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 16.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.82 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.53 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 29.97 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 5.18 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ต.ค.62) 1,616.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด (+0.25%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,083.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ต.ค.62) ปิดที่ 52.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.08%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ต.ค.) อยู่ที่ 6.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.28 แข็งค่าต่อเนื่องจากวานนี้ตามภูมิภาค จับตาการเจรจาการค้า-ท่าทีธปท. มองกรอบวันนี้ 30.25-30.35
- "อุตตม" เผยได้ชื่อบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดใหม่แล้ว ชี้ TOR ไฮสปีด 3 สนามบินยืดหยุ่นพอสมคววร แต่ขึ้นอยู่กับ "ก.คมนาคม" อนุฯ เร่งรัดนัดถก ร.ฟ.ท.ประเด็นส่งมอบพื้นที่ "อนุทิน" โวชีวิตมั่นคงแล้ว ไม่ต้องเอื้อธุรกิจครอบครัว พร้อมท้าหยิบปากกามาเซ็นสัญญา เชื่อส่งสารถึง "เจ้าสัวธนินท์" ที่วอนให้รัฐช่วยรับความเสี่ยงร่วมกับกลุ่ม CPH "ศักดิ์สยาม" ยังเชื่อเที่ยงตรง วันที่ 25 ต.ค.ได้เซ็นสัญญา แจงไม่บีบเอกชน แค่ทำตาม TOR ขู่ไม่มาตามนัดก็ต้องติดแบล็กลิสต์ เผย "บิ๊กตู่" สั่ง 3 รองนายกฯ ร่วมแก้ข้อพิพาทสัมปทานทางด่วน เชื่อภายในเดือนนี้มีความชัดเจน
- เงินบาท "แข็งค่า" ทำสถิติสูงสุดรอบ 6 ปี นักบริหารเงินชี้ส่วนหนึ่งจากทุนนอกไหลเข้ารอซื้อหุ้นใหญ่เพิ่ม ประกอบกับมี "เอฟดีไอ" จากญี่ปุ่นไหลเข้ามาลงทุน ด้าน กนง. ห่วงเงินบาทที่แข็งค่าเริ่มกระทบสภาพคล่องธุรกิจ
- กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เตรียมใช้งบ 4.8 หมื่นล้านบาท ยกระดับถนนทั่วประเทศ เปลี่ยนจากลูกรังเป็นลาดยาง-คอนกรีต 439 โครงการ เดินหน้าถนนเพื่อการท่องเที่ยว เชื่อมต่อการขนส่ง เขตเศรษฐกิจพิเศษ สานต่อไทยแลนด์ริเวียร่า สนับสนุนการท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเล
- รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานผลวิเคราะห์สถานการณ์และผล กระทบสงครามการค้าต่อการส่งออกครึ่งปี 2562 และโอกาสส่งออกสินค้าศักยภาพหลังมาตรการภาษีมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายน 2562 แจ้งว่า ไทยยังสามารถรักษาและขยายส่วนแบ่งตลาดทั้งในสหรัฐและจีนได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่มีส่วนแบ่งตลาดลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินค้าไทยยังมีขีดความสามารถในการส่งออก ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยังไม่ชัดเจน และมีความผันผวนสูง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์เข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่กู้สินเชื่อไม่มีหลักประกัน ที่ยังไม่กลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เนื่องจากการติดตามโครงการคลินิกแก้หนี้ที่แก้ไขหนี้ให้ลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลพบว่ามีลูกหนี้รายย่อยที่ยังไม่เป็นเอ็นพีแอลมีการเข้ามาขอคำปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างหนี้จากบริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด (บสส.) ที่เป็นผู้ดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้มากขึ้น ซึ่งหากแก้ไขปัญหาหนี้ได้เร็วจะเป็นประโยชน์ทั้งลูกหนี้และธนาคาร
*หุ้นเด่นวันนี้
- AWC (บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยราคาขาย IPO 6.00 บาท/หุ้น ทั้งนี้ AWC มีการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน จำนวน 1,043,000,000 หุ้น โดยมี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ให้ยืมหุ้น และมีบล.ภัทร เป็นผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน โดยเริ่มซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินในวันที่ 10 ต.ค. 2562 และวันที่สิ้นสุดการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน 8 พ.ย. 2562 ราคาจองซื้อหลักทรัพย์ / ราคา IPO ที่ 6.00 บาท/หุ้น โดยตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย ST ในหลักทรัพย์ที่มีการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินเพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบ ตลอดช่วงเวลาที่มีการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน
- LH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 13 บาท ราคาหุ้นปรับลง 11% ตั้งแต่ต้น ก.ย. แย่กว่ากลุ่มที่ -7% ทั้งที่ถูกกระทบจากเกณฑ์ LVT น้อยกว่ากลุ่มเพราะมีรายได้หลากหลายโดย 75-80% ของยอดขายรวมมาจากบ้านเดี่ยว มีรายได้สม่ำเสมอจากอสังหาให้เช่า มีอัตรากำไรสุทธิ 22-24% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ล่าสุดทริสคงเรทติ้ง A+ แนวโน้ม Stable ด้านแนวโน้มกำไร H2/62 ดีกว่าครึ่งแรกเพราะมีโอนคอนโด The Bangkok ทองหล่อ มูลค่า 4 พันลบ. (sold 54%) และขายโรงแรม Grand Center Point สุขุมวิท 55 เข้ากองทรัสต์ใน Q4/62 คาดกำไร 1.5-2 พันลบ. พร้อมคาดปันผล H2/62 หุ้นละ 0.45 บาท Dividend yield 4.7% (หรือทั้งปี 7.8%)
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q3/62 ยังเติบโต