โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) เล็งกำไรไตรมาส 4/62 เติบโตเด่น จากการขายโรงแรม Grand Centre Point ทองหล่อเข้ากองทรัสต์ LHHOTEL คาดจะบันทึกกำไรพิเศษราว 1.5-1.7 พันล้านบาท เข้ามามาชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจพัฒนาและขายที่อยู่อาศัยที่ถูกกระทบจากมาตรการ LTV ฉุดยอดโอนปี 62 ชะลอตัว
นอกจากนี้ LH เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากปันผลสูงถึง 7-7.6% และราคาหุ้นปรับตัวลงไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมาจากผลกระทบ LTV จึงเป็นโอกาสเข้าลงทุน
ล่าสุดหุ้น LH ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.70 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ SET -0.31%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 13.00
ทิสโก้ ซื้อ 12.40
เอเซีย พลัส ซื้อ 12.30
หยวนต้า (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 12.10
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 10.70
น.ส.นวลพรรณ น้อยรัชชุกร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า LH เป็นหุ้นที่ให้ปันผลที่ดีในอัตรา 7.6% ต่อปี ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันถูกกดดันจากปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะมาตรการ LTV ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากแล้วเช่นเดียวกับหุ้นอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่น จึงเป็นจังหวะการเข้าซื้อสะสม
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/62 จะมีการขายสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรม Grande Centre Point ทองหล่อเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) ทำให้ LH จะมีกำไรพิเศษเข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีไห้เติบโตได้อย่างโดดเด่นที่สุด โดยคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาราว 1.7 พันล้านบาท ขณะที่ยังมีการโอนโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม The Bangkok ทองหล่อ ที่จะมียอดโอนเข้ามามากในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ด้านนางจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มกำไรของ LH ในไตรมาส 4/62 คาดว่าจะสูงสุดกว่าทุกไตรมาสในปีนี้ โดยเฉพาะจากการขายโรงแรม Grand Centre Point เข้ากอง LHHOTEL คาดว่าจะมีกำไรพิเศษเข้ามาราว 1.5 พันล้านบาท หนุนให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และช่วยชดเชยแรงกดดันจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่ มองว่า LH ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ไม่มากนัก เพราะพอร์ตสินค้าที่ขายส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นโครงการแนวราบที่เน้นกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง แต่อาจจะชะลอตัวลงบ้างในกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียม เพราะยอดขายเกิดการชะลอตัว ซึ่งภาพรวมปีนี้คาดว่ายอดโอนของบริษัทมีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ 3.22 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดโอน 3.95 หมื่นล้านบาท แต่ LH ยังมีความน่าสนใจเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีเฉลี่ย 7% และราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง มองว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการลงทุน
ส่วนนายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า LH รับปัจจัยหนุนกำไรไตรมาส 4/62 ทำจุดสูงสุดของปีนี้ จากการขายโรงแรม Grand Centre Point เข้ากองทรัสต์ LHHOTEL คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาราว 1.5 พันล้านบาท ช่วยชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจที่อยู่อาศัย จากที่ประเมินว่าในปีนี้ยอดโอนของบริษัทจะลดลงราว 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะยอดจองโครงการแนวราบที่ชะลอตัวลง และปีนี้มีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เพียง 1 โครงการ คือ The Bangkok ทองหล่อ จากปีก่อนที่มีการโอนคอนโดฯ ใหม่ 3 โครงการ ส่งผลกระทบทำให้ภาพรวมของยอดโอนเกิดการชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม LH ยังถือเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 7% ซึ่งเป็นหุ้นที่มีการกระจายธุรกิจอื่น ๆ ไม่ใช่เพียงแต่ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีธุรกิจโรงแรม ศูนย์การค้า และเงินลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่เข้ามาเสริม และราคาหุ้นของ LH ถือว่าปรับตัวลดลงมาตามหุ้นอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุน