นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมกันในเดือน ธ.ค.นี้เพื่อพิจารณางบลงทุนของปี 63 วงเงินเกือบ 1 แสนล้านบาท โดยจะนำไปใช้ในโครงการขยายสถานีรับส่งก๊าซ LNG เฟส 2 ,โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3, โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 เป็นต้น
ส่วนในไตรมาส 4/62 บริษัทตั้งงงบลงทุนไว้ราว 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการนำไปเพิ่มทุนให้กับ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เพื่อเข้าซื้อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (GLOW) ราว 1.7 หมื่นล้านบาท, โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 จำนวน 3,000 ล้านบาท, การซ่อมท่อก๊าซฯเส้นที่ 1 จำนวน 1,000 ล้านบาท ,โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก จากสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ราชบุรี-วังน้อยที่ 6 (RA6) ไปยังจังหวัดราชบุรี 645 ล้านบาทต่อปี ,โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง 400 ล้านบาท และอื่นๆ 4,000 ล้านบาท
สำหรับนโยบายที่รัฐบาลต้องการให้ ปตท.ร่วมมือในโครงการประชารัฐสร้างไทยนั้น ปัจจุบัน ปตท.มีสถานีบริการน้ำมันราว 100 แห่งที่ได้นำสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายแล้ว โดยมีเป้าหมายทำให้ครบ 300 แห่งในเร็ว ๆ นี้ จากปัจจุบันที่ ปตท.สถานีบริการน้ำทั้งหมด 1,800 แห่ง และมีร้านคาเฟ่อเมซอนประมาณ 2,000 แห่ง อีกทั้งหากสินค้าชุมชนใดโดดเด่น ปตท.อาจจะคัดเลือกให้ปจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศและต่างประเทศด้วย
ส่วนแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ ปตท.เข้าไปตั้งร้านคาเฟ่อเมซอนในพื้นที่ชุมชนนั้น ปตท.จะนำไปศึกษาข้อมูลและวางรูปแบบร้านที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ซึ่งจะสร้างเป็นรูปแบบการแบ่งปันพื้นที่สำนักงาน (Co-Working Space) ให้กับชุมชนด้วย รวมทั้งให้สามารถนำสินค้าชุมชนมาวางจำหน่ายในร้านได้