นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 จะดีกว่าไตรมาส 3/62 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นจากที่ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/62 มีแนวโน้มชะลอตัวลงบ้าง แต่ในช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าร่วมโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ของภาครัฐ ซึ่งสามารถช่วยหนุนยอดขายของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้ และบริษัทเป็นแบรนด์ร้านอาหารในประเทศเพียงไม่กี่ร้านที่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐ
ขณะเดียวกันหลังจากที่ผ่านเทศกาลกินเจไปแล้ว บริษัทเริ่มเห็นยอดขายกลับมาดีขึ้นอย่างมาก ทำให้มั่นใจว่าผลงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าที่ 3 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2.96 พันล้านบาท
แผนงานด้านธุรกิจร้านอาหารยังมีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนจะซื้อแบรนด์ร้านอาหารใหม่ คือ "DINS" เข้ามาบริหารเพิ่ม ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารจีนจากประเทศญี่ปุ่น โดยสาขาแรกจะเปิดที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ก่อนสิ้นปี 62
พร้อมกับมองโอกาสในการขยายตลาด Delivery และเจาะกลุ่มลูกค้าที่อาศัยคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น โดยที่บริษัทมองว่าปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ Delivery อาหารส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่อาศัยในคอนโดมิเนียม และความต้องการใช้บริการ Drlivery เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายที่มาจาก Delivery ของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาดีมาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10 ล้านบาท/เดือน
ทั้งนี้ บริษัทได้จับมือกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เพื่อนำร้านอาหารภายใต้การบริหารเข้าไปขยายสาขาภายในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่มีศักยภาพของ ORI อาจจะเริ่มจากโครงการมิกซ์ยูสในย่านรามอินทราเป็นแห่งแรก ส่วนทำเลอื่นๆ คงต้องเข้าไปดูสถานที่เพิ่มเติม
"บริษัทมองว่าสัดส่วนยอดขายจากบริการ Delivery ในอนาคตจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีกมาก จากปัจจุบันยังน้อยอยู่ โดยส่วนใหญ่ 90% มาจากร้านอาหารและร้านเฟรนไชส์ ทำให้การจับมือกับ ORI เป็นโอกาสที่จะขยานฐานลูกค้าใหม่ๆและทำให้ยอดขายที่มาจาก Delivery เพิ่มขึ้น"นายบุญยง กล่าว
บริษัทมีการขยายสาขาร้านในเครือเพิ่มขึ้นในทุกๆ แบรนด์ โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 280 สาขา และจะเพิ่มเป็น 300 สาขาในสิ้นปี 62 จากแบรนด์ร้านอาหารที่มีอยู่ 12 แบรนด์ พร้อมกับตั้งเป้าขยายจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 1,300 สาขา ภายในปี 66 ซึ่งจะผลักดันให้บริษัทมีรายได้รวมแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท โดยแบรนด์ร้านอาหาร "เขียง"จะมีจำนวนสาขามากที่สุด 1,000 สาขา ส่วนอีก 300 สาขาจะเป็นการขยายสาขาแบรนด์อื่นๆ
นายบุญยง กล่าวว่า สาเหตุที่เน้นขยายสาขาร้าน"เขียง"เป็นหลัก เพราะมองว่าตลาด Street Food ในประเทศไทยมีมูลค่าที่สูงกว่า 3 แสนล้านบาท จากมูลค่าของตลาดรวม 8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด และขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นในกลุ่ม Premium Mass ซึ่งมีคู่แข่งในตลาดน้อย อีกทั้งแบรนด์ "เขียง" ใช้ระยเวลาในการคืนทุนเพียง 2-3 ปี โดยปัจจุบันมีสาขาร้าน"เขียง"เปิดให้บริการแล้ว 40 สาขา และคาดสิ้นปี 62 จะเพิ่มเป็น 50 สาขา ซึ่งมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 40 สาขา และในปี 63 จะนำร้าน"เขียง"ไปเปิดในเวียงจันทน์และเสียมเรียบ