นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้บริษัทเตรียมทำการตลาดเพื่อวางจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ "B-LEAF" ในรูปแบบกล่องกระดาษบรรจุอาหารจากเยื่อไผ่ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล็อตที่ 2 จำนวน 900,000 กล่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการทำการทดสอบตลาดในช่วงไตรมาส 3/62 มาแล้ว
สำหรับสินค้ากล่องบรรจุอาหารจากกระดาษในล็อตที่ 2 นี้ บริษัทได้มีการปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานของลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับปีนี้ภาครัฐมีการกระตุ้นเศรฐกิจในโครงการ ชิม ช้อป ใช้ คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกภาคธุรกิจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของ TPLAS ทุกโปรดักส์ จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า หลังจากที่มีมาตการลดใช้กล่องโฟม ทำให้ความต้องการใช้กล่องบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกระดาษ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "B-LEAF" ทางบริษัทฯ ใช้วัตถุดิบในการผลิตซึ่งทำจากกระดาษเยื่อไผ่ ที่มีการย่อยสลายง่าย ซึ่งยิ่งทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคในขณะนี้ได้ตรงตามความต้องการ
"บริษัทฯเชื่อมั่นว่าโปรดักส์ใหม่ภายใต้แบรนด์ "B-LEAF" จะเข้ามาตอบโจทย์ได้ทุกๆกลุ่มเป้าหมาย ส่วนกลยุทธ์ในการเจาะตลาดนั้น บริษัทยังคงเน้นกลุ่มยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมีฐานกลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่แข็งแกร่ง และมีฐานตลาดที่กว้าง ดังนั้นการเจาะตลาดในโปรดักส์ใหม่ สำหรับบริษัทฯจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวล พร้อมทั้งคาดว่าโปรดักส์นี้จะเข้ามาช้วยเสริมความแข็งแกร่งในเรื่องของยอดขายทางธุรกิจในอนาคตได้เพิ่มขึ้น" นายธีระชัย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TPLAS กล่าวเพิ่มอีกว่า ในช่วงปลายปีนี้บริษัทยังคงศึกษาแผนการขยายไลน์โปรดักส์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีก 1-2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดรับกับความต้องการใช้ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปี 62 นี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุป และสามารถเห็นภาพการลงทุนได้ชัดเจน
ส่วนเรื่องความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ตามแผนการขยายการลงทุน IPO นั้น ล่าสุด การผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกใกล้จะแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากมีการเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ๆ จะส่งให้บริษัทฯมีความสามารถรองรับการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตถุงพลาสติกเพิ่มขึ้น เกือบเท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี