SPPT ตั้งเป้า ปี 51 รักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17-18%,โตต่อเนื่องตามอุตฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 26, 2008 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) หรือ SPPT เชื่อว่า แนวโน้มของธุรกิจในปี 2551 ยังเติบโตต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรม Hard Disk Disk ที่คาดขยายตัวประมาณ 14.8% 
"จากการประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรม Hard Disk Disk (HDD) คาดว่าปี 2551 จะเติบโตประมาณ 14.8% ต่อเนื่องจากปี 2550 ที่มีอัตราการเติบโตประมาณ 15.2% ซึ่งในส่วนของปัญหาซับไพร์มที่สหรัฐอเมริกาเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์มากนัก เพราะที่ผ่านมาตลาดสำคัญของ อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์จะมีการเติบโตจะในตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และแถบเอเชีย เป็นหลัก" นายประพจน์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปีนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นโดยจะรักษาให้อยู่ที่ระดับ 17-18% โดยการเพิ่มกำลังการผลิตและการใช้พื้นที่ที่สิงห์บุรี ให้ได้ที่ 90% และขยายธุรกิจในส่วนของ Non Hard Disk ที่โรงงานอยุธยามากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นภายในไตรมาส 1/51
สำหรับสภาวะการแข่งขันของธุรกิจว่ามีไม่มาก เนื่องจากมีจำนวนผู้ผลิตไม่มากราย อีกทั้งผู้ประกอบการทุกรายค่อนข้างระมัดระวังในการขยายกำลังการผลิต และเชื่อว่าส่วนใหญ่เน้นในเรื่องผลกำไรมากกว่าการครองส่วนแบ่งการตลาด ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องนั้นมีผลกระทบบ้าง เพราะบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศโดยมีลูกค้ารายใหม่ 3 รายที่ มาเลเซีย สิงคโปร์และจีน ซึ่งบริษัทได้เริ่มส่งออกเมื่อช่วงไตรมาส 3 แต่ส่วนที่ถือเป็นผลบวกกับ SPPT จากการแข็งค่าของเงินบาทก็มีเช่นกัน เนื่องจากช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบให้ถูกลง เพราะบริษัทต้องนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมด
ทั้งนี้ แนวโน้มของธุรกิจเริ่มเห็นภาพชัดเจนตั้งไตรมาส 4/50 ซึ่งกำไรสุทธิโตแบบก้าวกระโดดเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/50 เนื่องจาก SPPT ได้โยกย้ายเครื่องจักรจากโรงงานที่อยุธยาออกไปที่โรงงานแห่งใหม่ที่สิงห์บุรีเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และปัญหาหลายๆอย่างที่โรงงานสิงห์บุรีได้รับการแก้ไขระดับหนึ่ง
ส่วนภาพรวมตลอดทั้งปี 2550 ผลประกอบการได้ปรับลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจาก SPPT มีค่าใช้จ่ายในการโยกย้ายเครื่องจักรในไตรมาส 2 และส่วนหนึ่งในไตรมาส 4 รวมทั้งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเช่น บุคคลากร ค่าเสื่อมราคาโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ อีกทั้งยังประสบปัญหาเรื่อง ไฟดับ ไฟตกในช่วง ไตรมาส 2-3 ทำให้ไม่สามารถผลิตได้เต็มที่ และมีปัญหาเรื่องการสูญเสียที่เกิดขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ