นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/62 (ก่อนการใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS 15) บริษัทมีรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC มูลค่า 15,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า EBITDA margin (ปรับปรุง) อยู่ที่ 37.9% เพิ่มขึ้น 0.8 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
"จากผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของดีแทคที่สะท้อนถึงความพยายามอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงข่ายในการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง ดังเห็นได้จากผลตอบรับของลูกค้าในระบบเติมเงินและลูกค้ารายเดือนต่อการพัฒนาที่ดีขึ้นของโครงข่าย ตลอดจนความพยายามในการสร้างประสบการณ์ในการบริการที่เป็นรูปแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น โดยในเชิงกลยุทธ์ ดีแทคยังคงมุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์การใช้งานโครงข่ายที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสามารถตอบสนองลูกค้าด้วยความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าว
ในช่วงปีที่ผ่านมา DTAC ได้พัฒนาคุณภาพและขยายพื้นที่โครงข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มอัตราการขยายสถานีฐานเป็นเท่าตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยในไตรมาส 3/62 เสาสัญญาณเพื่อให้บริการบนคลื่น 2300 เมกะเฮิร์ซ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 16,400 เสา โดยมีเสาสัญญาณจำนวนมากที่มีการติดตั้งเทคโนโลยี 4G TDD Massive MIMO 64T64R ซึ่ง DTAC เป็นผู้ให้บริการรายแรกของไทยที่ให้บริการเทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากนี้ DTAC ยังคงพัฒนาด้านเทคโนโลยีในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ยุค 5G โดยการทดสอบเทสต์เบดที่อาคารจามจุรี รวมไปถึงการอัพเกรดอุปกรณ์ระบบเครือข่ายหลักไปเป็นแบบเสมือน
ณ สิ้นไตรมาส 3/62 DTAC มีจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 20.4 ล้านราย ลดลง 217,000 ราย ขณะที่รายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้จากกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินและการรักษาระดับการพัฒนารายได้จากกลุ่มลูกค้าในระบบรายเดือน ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่า 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจาก EBITDA หรือผลกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่ายที่ดีขึ้น
นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน DTAC กล่าวว่า DTAC มีผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งเกร่ง โดยรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และด้วยการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ดี ทำให้มี EBITDA และกำไรสุทธิที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ DTAC ยังคงคาดการณ์รายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC ในปีนี้จะลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ โดยจะมี EBITDA อยู่ในช่วง 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ DTAC วางแผนที่จะใช้เงินลงทุนในปี 62 จำนวนประมาณ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท