นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down หลังจากที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯเดือนก.ย.หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และตลาดฯก้ยังต้องจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะมีภาพออกมาเป็นอย่างไร หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง ทำให้การเจรจาการค้าในช่วงที่ผ่านมาอาจมีปัญหาได้
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ส่วนบ้านเราวันนี้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งก็ต้องรอดูผลโหวตจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 3/62
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเล่นเทรดดิ้งได้ โดยเมื่อวานนี้เริ่มเห็นการกลับมาเล่นเทรดดิ้งหุ้นในกลุ่มรับเหมา, กลุ่ม ICT และกลุ่มไฟฟ้า ซึ่งมองว่าตลาดยังสามารถเล่นหุ้นเป็นรายตัวได้ โดยเลือกหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี
พร้อมให้แนวรับ 1,628-1,623 จุด ส่วนแนวต้าน 1,643-1,650 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,001.98 จุด ลดลง 22.82 จุด (-0.08%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,989.69 จุด ลดลง 5.99 จุด (-0.20%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,124.18 จุด ลดลง 24.52 จุด (-0.30%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 21.77 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.07 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 144.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 6.69 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.86 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ต.ค.62) 1,634.46 จุด เพิ่มขึ้น 7.45 จุด (+0.46%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 550.80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ต.ค.62) ปิดที่ 53.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.04%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ต.ค.) อยู่ที่ 3.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.37 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯหดตัว
- กพอ.อนุมัติขยับเวลา ส่งมอบพื้นที่ไฮสปีด 3 สนามบินเร็วขึ้นรฟท.ชี้กรณีเลวร้ายส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ ใน 1 ปี 3 เดือน เปิดช่องเอกชนบอกเลิกสัญญาได้ เผยเงื่อนไขเบิกเงินก่อนกำหนดได้ "สมคิด" ระบุ "ซีพี" แย้มลงนามก่อน 25 ต.ค. ขอดูฤกษ์ก่อนเคาะวัน บอร์ดการรถไฟฯ เคาะเริ่มเคลียร์พื้นที่ก่อสร้าง พ.ย.นี้
- ซีพีเอ็นประกาศแผนธุรกิจเตรียมทุ่ม 2.2 หมื่นล้านบาท เดินหน้า 17 โครงการ ทั้งไฮไลต์โปรเจ็กต์ มิกซ์ยูสรูปแบบใหม่กลางเมือง พร้อมปรับโฉมศูนย์การ 12 สาขาทั่วประเทศ ดึงจุดเด่นแต่ละจังหวัด หนุนขึ้นฮับภูมิภาค ตั้งเป้าเปิดทุกโครงการภายในปี 2565
- คาดเงินไหลเข้าแอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ 3-4 หมื่นล้านบาท ช่วงโค้งสุดท้าย ก.ล.ต.เร่งนายจ้างสะสมเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 15% ของเงินเดือน หลังพบเงินเกษียณไม่พอใช้
- "คลัง" เตรียมชง ครม.ลุยมาตรการ"ชิมช้อปใช้"เฟส 2 ปลายเดือนนี้ เล็งให้สิทธิ์รับแคชแบ็กเพิ่มเป็น 20% ปลื้มเฟสแรก 19 วัน ยอดใช้จ่ายทะยานแตะ 8.28 พันล้านบาท
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงกำลังพิจารณาการออกมาตรการทางการท่องเที่ยวเพิ่มเติมมาช่วยเสริมมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" ระยะที่ 2 หรือเฟส 2 โดยการออกมาตรการเสริม เช่น มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย คาดว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 300-400 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- CK (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า IAA Consensus 31 บาท เก็งกำไรข่าว รฟท. นัดกลุ่ม CP เซ็นสัญญา โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในสัปดาห์หน้า (25 ต.ค.) คาด CK เต็งหนึ่งได้งานก่อสร้างเพราะถือหุ้นอยู่ในกลุ่ม CP อยู่แล้ว หากได้งานนี้จริงจะช่วยปลดล็อกปัญหางานในมือ (Backlog) ที่อยู่ในระดับต่ำออกไป ขณะที่ราคาหุ้นลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอใน Q2/62 ไปแล้ว
- DTAC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 68 บาท กำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย โดยมีกำไรปกติ 1.75 พันล้านบาท -2% Q-Q และโตก้าวกระโดดจาก Q3/61 ที่กำไรเพียง 1 ล้านบาท แม้ Net add จะติดลบแรงขึ้นเป็น 2.2 แสนราย แต่ ARPU ที่โตแรง ทำให้รายได้บริการยังโตได้ กำไรปกติ 9M19 +455% Y-Y และคิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี
- SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท คาดกำไร 3Q62 -21% Q-Q ชะลอตามฤดูกาลแต่โตสูง +66% Y-Y เป็น 111 ล้านบาท จากยอดขาย B’LUE เต็มไตรมาส และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นมาก เพราะประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นและต้นทุนเม็ดพลาสติกถูกลง รวมถึงส่งออกไปตะวันออกกลางกลับมาฟื้น ปรับกำไรทั้งปีขึ้น 11% เป็น 464 ล้านบาท +32% Y-Y และโตต่อ +7% Y-Y ปีหน้า