นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,625-1,640 จุด คล้ายคลึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง แม้ว่าเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะมีพัฒนาการในเชิงบวกแต่ก็เป็นแค่ Step แรก เพราะยังต้องนำเรื่องเข้าสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษพิจารณาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก่อนว่าจะให้ผ่าน/ไม่ผ่าน ซึ่งทำให้เรื่อง Brexit ยังมีความไม่แน่นอน
นอกจากนี้ เช้านี้ยังต้องรอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/62 ของจีน ด้วย ซึ่งตลาดฯคาดเติบโต 6.1% ถ้าออกมาดีจะหนุน Sentiment การลงทุน รวมถึงติดตามความคืบหน้าสงครามก รค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนภายในประเทศให้ติดตามสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ต่อไป และการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 3/62
อนึ่ง สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 6.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.1% ส่วน GDP ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ของจีน ขยายตัว 6.2%
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,025.88 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด (+0.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,997.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด (+0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,156.85 จุด เพิ่มขึ้น 32.67 จุด (+0.40%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 76.70 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 62.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.72 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.78 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ต.ค.62) 1,632.80 จุด ลดลง 1.66 จุด (-0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 222.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ต.ค.62) ปิดที่ 53.93 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ต.ค.) อยู่ที่ 4.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.27/31 แนวโน้มยังแข็งค่า หลังเม็ดเงินไหลเข้าหนุน มองกรอบวันนี้ 30.25-30.35
- "ไทยคม" พร้อมรับมือดาวเทียมหมดสัญญาสัมปทาน ทั้งการทำ"พีพีพี" และ "การใช้ดาวเทียมต่างชาติ" หลังกฏหมายเปิดเสรีต้นปีหน้า คาดจับมือพันธมิตรต่างชาติไม่เกินกลางปี 2563 พร้อมเดินหน้าให้บริการใหม่ ยันคลื่น 3600 เมกะเฮิรตช์ มีลูกค้าใช้งาน 10 ล้านครัวเรือน หาก กสทช.เรียกคลื่นคืนนำคลื่น ไปใช้ 5จี ต้องจ่ายเงินเยียวยา
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผย อสังหาฯซัพพลายเหลือขายสูง 1.5 แสนหน่วย 6.6 แสนล้านบาท นิวไฮ 5 ปี เป็นคอนโดฯเหลือขาย 6.4 หมื่นหน่วย คอนโดฯกำลังสร้าง เตรียมเข้าสู่ตลาดกว่า 2 หมื่นหน่วยซ้ำเติมสถานการณ์ ขณะอัตราดูดซับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ส่อฉุดตลาดปี 63 นักอสังหาฯแนะทางรอดดันโครงการคุ้มค่า จับราคา 1.5-5 ล้านบาท แนวรถไฟฟ้าสายใหม่
- ทอท.เปิดประมูล ชิงพื้นที่ ดิวตี้ฟรี สนามบินดอนเมือง สัญญา 10 ปี 6 เดือน ยื่นประมูล 11 ธ.ค. ตัดสิน 16 ธ.ค. 62 กางเงื่อนไข "กลุ่มเซ็นทรัลฯ" หมดสิทธิ์เข้าประมูล เหตุมีคดีฟ้องร้องกับ ทอท. ขณะที่ขยาย "ดอนเมืองเฟส 3" จ่อสลับใช้อาคารระหว่างประเทศหลังใหม่-เพิ่มพื้นที่ดิวตี้ฟรี
- บอร์ด รฟท.เห็นชอบ รถไฟไทย-จีน สัญญา 2.3 ปรับกรอบวงเงินเป็น 5.06 หมื่นล้านบาท เร่งเสนอคมนาคม ชง ครม.เห็นชอบ ลงนามช่วงประชุมอาเซียนซัมมิตต้น พ.ย.นี้ "จิรุตม์" เผยบอร์ดกำชับให้ทำตามกฎหมายอย่างครบถ้วน พร้อมเคาะผลประมูลระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 สัญญากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เซ็นสัญญาเริ่มงานปลายปี 62
- "หอการค้า" ชี้สงครามการค้า-บาทแข็งหน่วงเศรษฐกิจไทยปีนี้ลุ้นโตแค่ 2.8% ลุ้นมาตรการ"ชิมช้อปใช้"เฟส 2 แผลงฤทธิ์ เข็นจีดีพีโตเพิ่ม 0.2% พร้อมหั่นจีดีพีเอสเอ็มอีเหลือ 3-3.5% หลังเศรษฐกิจชะลอ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินกำไรแบงก์ไตรมาส 3 อยู่ในกรอบ 5.66-5.78 หมื่นล้านบาท จากรายการพิเศษ ค่าใช้จ่ายกันสำรองหนี้สูญลด-ต้นทุนลด ขณะที่เอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.97-3.02%
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPW (บมจ.คอปเปอร์ ไวร์ด) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ โดยราคาขาย IPO 2.38 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปีหน้า 3.20 บาท โดยคาดกำไรปี 2562 -16% Y-Y เป็น 69 ล้านบาท ตามการชะลอของเศรษฐกิจ แต่คาด +37% Y-Y เป็น 94 ล้านบาท ปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯเป็นผู้ค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์รายใหญ่ และสินค้าแบรนด์ Apple ผ่านร้าน .life, iStudio by copperwired, U-Store by copperwired
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q3/62 ยังเติบโต ตรงข้ามกับหุ้น Big Cap ในกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ชะลอตัว โดยคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy
- AMATA (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 27 บาท คาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีจะเติบโตโดดเด่น จากยอดขายที่ดินที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ปัจจัยหนุนมาจากการที่ภาครัฐทยอยอนุมัติ BOI ให้กับบริษัทต่างชาติทั้งจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตเร็วและญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของทาง AMATA อย่างต่อเนื่อง ในไตรมาส 3 และ 4 ยอด Presale มีโอกาสจะได้ประมาณไตรมาสละ 300 ไร่ และโซนหลักยังคงเป็นนิคมระยอง ซึ่งพื้นที่นี้ AMATA มีที่ดินพร้อมขายอยู่ราว 1.5 พันไร่ ด้านธุรกิจ Recurring ก็ยังเติบโตไปตามการขยายตัวของนิคมฯ ในส่วนของประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2562 คาดไว้ที่ระดับ 480 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น +59%YoY, +15%QoQ ส่วนกำไรทั้งปี 2562 ประเมินที่ 1.7 พันล้านบาท +70%YoY