นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) คาดว่า ยอดขายในปี 62 มีโอกาสทะลุ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตเกินเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 10% จากระดับ 2.79 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว โดยนับเป็นยอดขายในระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท เนื่องจากยอดขายในไตรมาสที่ 1,2 และ 3 เติบโตตามเป้า และคาดว่าไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งได้รับผลดีจากการเปิดตัว iPhone 11 , iPhone 11 Pro , iPhone 11 Pro Max ที่มียอดจองซื้อล่วงหน้ามากกว่าเท่าตัวจากการเปิดตัว iPhone X , iPhone XR เมื่อปีแล้ว และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับ iPhone รุ่นใหม่เริ่มเปิดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ (18 ต.ค.62) เป็นวันแรก ซึ่งผลตอบรับเข้ามาดีเกินกว่ายอดจองในรุ่นก่อนมาก คาดว่าเป็นผลจากการอัพเดทเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น และตั้งราคาขายในระดับที่น่าสนใจ
"ไตรมาสที่ 4 ปีนี้มั่นใจน่าจะยังรักษาการเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว เพราะ iPhone 11 ได้มีการตอบรับดี ยอดขายปีนี้ทำนิวไฮ มีลุ้นทะลุ 3 หมื่นล้านบาท"นายสุระ กล่าว
นอกจาก iPhone 11 แล้วยังมีสินค้าใหม่ของ Apple ได้แก่ iPad 7 ที่มีราคาไม่สูงหรือ 1 หมื่นบาทต้น ๆ และ Apple Watch series 5 จะวางจำหน่วยที่ราคา 13,400 บาทในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ขณะที่ Apple Watch series 3 ได้ปรับราคาลงเหลือ 6,400 บาท โดยปีหน้าหากระบบ 5G เกิดขึ้นเร็วก็เป็นโอกาสที่จะกระตุ้นให้คนเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือมาใช้รุ่นที่รองรับ 5G ได้ด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้สินค้า Apple มีสัดส่วนมากกว่าปีก่อน หรือมาที่ 40%
พร้อมกันนั้น บริษัทยังขายอุปกรณ์อื่นทั้งโน้ตบุ๊คและสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมีเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในไตรมาส 4 นี้เช่นกัน
ขณะที่ยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องยังมาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจาก 624 สาขาในปีที่แล้ว มาเป็น 731 สาขาในปัจจุบัน และจะเพิ่มเป็น 800 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งช่วยหนุนให้ยอดขายเติบโตขึ้นด้วย ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทก็คาดจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ได้ในระดับเฉลี่ย 13-14%
บริษัทยังได้นำร้านค้าเข้าร่วมมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้"ผ่านสาขาในกรุงเทพฯ 10 สาขา และในเฟส 2 ก็จะเข้าร่วมด้วย เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ส่วนหนึ่งด้วย โดยปัจจุบันรายได้ของบริษัทมาจากต่างจังหวัดสัดส่วน 60% ในกรุงเทพฯ 40% ขณะที่ช่องทางขายออนไลน์ก็มียอดขายดีขึ้น ในปีนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 5% แต่คาดว่าในอีก 2 ปี สัดส่วนจะขึ้นมาที่ 5%
นายสุระ กล่าวอีกว่า บริษัทเชื่อว่าโมเมมตัมการขาย iPhone 11 จะดีต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นปีหน้า ดังนั้น จะช่วยหนุนยอดขายในปี 63 ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะนำเสนอแผนธุรกิจปี 63 ต่อคณะกรรมการบริษัทในช่วงเดือน พ.ย.นี้ โดยเบื้องต้นจะผลักดันยอดขายร้านเดิมหรือสาขาเดิมขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมายอดขายก็เติบโตได้มากกว่า 10% และยังเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มขึ้น ภายใต้งบลงทุน 3-10 ล้านบาท/สาขา
สำหรับกลยุทธ์ในช่วงต่อจากนี้ บริษัทพร้อมขยายการเติบโตทั้งรายได้และกำไรจากแผนการขยายสาขาต่อเนื่องซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญในการต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ และขยายผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายรวมทั้งคัดสรรสินค้าแบรนดีไหม่ที่อยู่ในกระแสและความต้องการผู้บริโภคมาจำหน่ายซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับแบรนด์ เทคโนโลยีอย่าง xaome โดยคาดเริ่มนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้และวางแผนเปิดร้าน loT อย่างเต็มรูปแบบในช่วงต้นปีหน้าเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าและต่อยอดธุรกิจในอนาคต
ปัจจุบัน COM7 มีร้าน Apple brand shop ภายใต้แบรนด์ Studio7 จำนวน 100 สาขา นอกจากนี้มีร้าน BaNANA 230 สาขา Kingkok Phone 103 สาขา BKK 42 สาขา TRUE Shop by COM7 มี 121 สาขา BaNANA Shopping (แฟรนไชส์) 70 สาขา iCare 26 สาขา และ Brand Shop 35 สาขา